#DP Blog

ในยุคปัจจุบันที่เป็นยุคของโลกเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สิ่งต่างๆ รอบตัวเกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันต่างก็ต้องมีการออกแบบที่มีความน่าสนใจสามารถเชื่อมโยงคนกับเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบนี้เรียกว่า UX UI Design เป็นการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX) และอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสวยงาม (UI) ผู้ใช้งานจะรู้สึกพึงพอใจ และกลับมาใช้บริการอีก จนกลายเป็นอีกหนึ่งทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานทั่วโลก เป็นหัวใจของการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ดิจิทัล วันนี้เราจึงได้นำข้อมูลดีๆมาฝากสำหรับคนที่สนใจอยากเรียนทางด้าน UX UI จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย

UX UI Design คืออะไร?

กระบวนการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ดิจิทัล อย่างเช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือบริการดิจิทัลต่างๆ นั่นเอง โดยเน้นทั้งด้านความสวยงาม การใช้งาน เพื่อทำให้ผู้ใช้รู้สึกประทับใจ และกลับมาใช้บริการอีก โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

• UX Design (User Experience Design)

การออกแบบประสบการณ์การใช้งาน โดยที่มีจุดประสงค์ มุ่งเน้นให้ผู้ใช้สามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ทางดิจิตัลได้ง่าย สะดวก ไม่รู้สึกสับสนหากต้องใช้งานด้วยตนเอง และตอบโจทย์ตรงความต้องการ  

• UI Design (User Interface Design)

การออกแบบหน้าตาของหน้าต่างการใช้งานของผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ทั้งในเรื่องของปุ่มกดต่างๆ รูปแบบหน้าต่างการใช้งาน ลักษณะฟอนต์ตัวอักษร ภาพประกอบ สี ไอคอน โดยจะต้องมีความสวยงาม มีความทันสมัย ตามเทรนด์ น่าใช้งาน และสอดคล้องกับแบรนด์

หลักสูตร ต้องเรียนอะไรบ้าง?

การจะเป็น UX-UI Designer ที่ทำงานได้จริง ไม่ใช่เพียงแต่การใช้งานโปรแกรมเป็นหรือออกแบบผลิตภัณฑ์ดิจิทัลออกมาอย่างสวยงาม แต่ต้องเข้าใจในกระบวนการออกแบบ และระบบคิดการจัดการต่างๆ ร่วมด้วย การเรียน UX-UI Design จึงมีเนื้อหาที่ต้องเรียนรู้ดังนี้

1. เรียนรู้พื้นฐาน UX UI Design เป็นการเรียนรู้ในเรื่องความแตกต่าง ความสัมพันธ์ระหว่าง UX และ UI ทำความเข้าใจผู้ใช้งาน ทำการออกแบบ และเข้าใจกระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ เพราะเป็นหลักการออกแบบที่เน้นผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง 
2. เรียนรู้การทำความเข้าใจผู้ใช้ในเชิงลึก ทักษะการวิจัยผู้ใช้ ทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยเริ่มจากการการสัมภาษณ์ผู้ใช้ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ มองหาปัญหาและออกแบบเพื่อแก้ไขและพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี 
3. ฝึกการร่างโครงสร้าง ทดลอง และปรับปรุงก่อนลงมือจริง เรียนรู้ในเรื่องการออกแบบ Wireframe (แบบร่างหน้าจอ) ด้วยมือหรือเครื่องมือดิจิทัล เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนก่อนลงมือทำจริง การวางโครงสร้างเว็บไซต์/แอปให้มีลำดับความคิดดี การวาง Flow ใช้งาน 
4. เรียนรู้การออกแบบ UI (User Interface Design) ทั้งในเรื่องของสี, ตัวอักษร, เลย์เอาต์, Icon, และ Grid เรียนรู้การสร้าง Components และ Design System เรียนรู้การใช้เครื่องมือต่างๆที่เกี่ยวข้อง และออกแบบให้เหมาะสมกับหน้าต่างการใช้งานของแต่ละอุปกรณ์
5. เรียนรู้การทดลองใช้งานกับผู้ใช้จริง เก็บข้อมูล นำมาวิเคราะห์ และนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนได้เป็นผลงานสุดท้าย 
6. เรียนรู้การนำเสนอผลงานและการทำ Portfolio ฝึกสร้าง Case Study ที่แสดงกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เรียนรู้การเล่าเรื่องให้กับผลงานให้มีความน่าสนใจ การออกแบบ Portfolio ให้ดึงดูด และการนำเสนอผลงาน สื่อสารกับทีมและลูกค้า

ทำไมต้องเรียน UX/UI ที่ Domus Academy?

 Domus Academy นั้นมีการเรียนการสอนที่ไม่ได้เน้นแค่เรียนทฤษฎีในห้องเรียน แต่ให้นักศึกษา ลงมือทำโปรเจกต์จริง ตลอดหลักสูตร เรียนผ่าน Workshop กับบริษัทจริง เพื่อได้ฝึกการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ ได้โจทย์ที่ท้าทายจากภาคธุรกิจและพัฒนาแนวคิดเป็นผลิตภัณฑ์จริง มีสิ่งแวดล้อมในสถาบันที่ดี หลากหลายวัฒนธรรม มีการสอนหลักสูตร UX/UI ที่ลึก ครอบคลุม และทันสมัย เมื่อเรียนจบหลักสูตรจะมี Portfolio ระดับมืออาชีพ ที่สามารถนำไปต่อยอดการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเรียน UX-UI Design นั้นไม่ได้เพียงออกแบบให้ออกมาสวยงามเท่านั้น ยังจะต้องสามารถใช้งานได้ง่าย มีความสะดวกสบาย การเรียน UX-UI Design ที่ Domus Academy นั้นจะช่วยให้เราได้ลงมือทำจริงอย่างมืออาชีพ หากใครที่สนใจอยากเรียนต่อที่สถาบัน Domus Academy สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่เลย

แฟชั่นดีไซน์ เป็นอีกหนึ่งศาสตร์ทางด้านของการออกแบบ ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วโลกมากมาย เพราะเป็นการแสดงออกถึงบุคลิกภาพ หรือการสะท้อนวัฒนธรรมที่แตกต่างกันออกไป จึงเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะ ทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ และเทคนิคในการออกแบบเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม หรือเป็นการติดตามเทรนด์สมัยใหม่ๆ แต่ต้องสามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และยังเป็นการสื่อสารที่มีความลึกซึ้ง สร้างอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของผู้คน แต่หลายคนก็อาจจะยังเกิดความสงสัยและยังไม่รู้ในเรื่องเกี่ยวกับแฟชั่นดีมากนัก อีกทั้งยังลังเลไม่แน่ใจว่าใช่ทางของตัวเราเองหรือไม่

แฟชั่นดีไซน์คืออะไร?

กระบวนการในการคิด สร้างสรรค์ และออกแบบเสื้อผ้า รวมถึงเครื่องแต่งกายอื่น ๆ อาทิเช่น เครื่องประดับ กระเป๋า หรือรองเท้า โดยมีจุดประสงค์ในด้านของความสวยงาม ให้ผู้สวมใส่ดูดี มีสไตล์ สะท้อนบุคลิกภาพ และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันหรือในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งนอกจากความสวยงามของดีไซน์แล้วนั้น ยังต้องตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวกสบาย ใช้งานได้ง่าย เลือกใช้วัสดุ สีสัน เนื้อผ้า และการตัดเย็บที่ประณีต เพื่อให้ผลงานที่ออกมาแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใคร

องค์ประกอบหลัก

1. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) เป็นสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับการออกแบบแฟชั่นและดีไซน์สิ่งต่างๆออกมาให้ดูดี มีความสวยงาม เป็นการคิดไอเดียใหม่ๆ ตีความแรงบันดาลออกมาเป็นผลงาน รวมถึงทดลองการออกแบบรูปแบบใหม่ที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน
2. มีความรู้ในเรื่องวัสดุและโครงสร้าง (Textiles & Construction) เข้าใจชนิดผ้ารูปแบบต่างๆ ลักษณะเนื้อผ้า วิธีการตัดเย็บ การวางแพทเทิร์น และการสร้างชิ้นงาน
3. ทักษะการสื่อสารเชิงภาพ (Sketching & Technical Drawing) การลงแบบออกมาให้เห็นภาพชัดเจน ใช้ได้ทั้งแบบการวาดมือและการใช้โปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ
4. ความเข้าใจตลาดและผู้บริโภค (Market Awareness) เข้าใจเทรนด์ความนิยมของโลก วิเคราะห์แนวโน้มแฟชั่นและความต้องการของผู้บริโภค เข้าใจเรื่องราคาขาย การวางแบรนด์ และกลยุทธ์เชิงธุรกิจ
5. การทดลองปรับปรุงผลงาน (Prototyping & Fitting) สร้างตัวอย่างงานออกแบบ ปรับแต่งผลงานและทำการทดลองผลงานจากผู้ใช้งานจริง ให้สามารถใช้งานได้ 

เหมาะสำหรับใคร?

• เหมาะสำหรับคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง 

มีใจรักในด้านของการออกแบบ ชอบคิดนอกกรอบ มองเห็นงานศิลปะมีชีวิต เพราะในโลกแฟชั่น การสร้างสรรค์สิ่งใหม่คือจุดขายที่มีความสำคัญอย่างมาก

• เหมาะสำหรับคนที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ 

เรื่องของแฟชั่นนั้นไม่เพียงแต่เกี่ยวกับความสวยงามเท่านั้น ยังต้องมีความแม่นยำในการเลือกผ้า สี เนื้อสัมผัส และการตัดเย็บ ความละเอียดรอบคอบนั้นจะทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีความสวยงามและสามารถใช้งานได้จริง 

• เหมาะสำหรับคนที่มีความเข้าใจในเรื่องของศิลปะและวัฒนธรรม

เพราะถ้าหากจะต้องการออกแบบเสื้อผ้าที่มีแนวคิดที่ลึกซึ้งและสร้างสรรค์คอลเลกชันที่มีเรื่องราวน่าสนใจได้ เราจะต้องมีความเข้าใจในเรื่องศิลปะ ประวัติศาสตร์ หรือความแตกต่างทางวัฒนธรรม ถึงจะสามารถถ่ายทอดเสื้อผ้าสะท้อนวัฒนธรรมและยุคสมัยให้ออกมาตีโจทย์ได้ดี

• เหมาะสำหรับคนที่มีทักษะในเรื่องของการวางแผนและการจัดการ 

เพราะจะต้องมีการทำงานร่วมกับฝ่ายอื่นๆ จึงต้องจัดการทีม ทำงานกับช่างตัดเย็บ ประสานงานกับฝ่ายการตลาด หรือวางแผนการผลิตได้อย่างลงตัว เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด

• เหมาะสำหรับคนที่เปิดรับการเรียนรู้และคำวิจารณ์ 

ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังมีการแข่งขันที่สูง ดังนั้นเราจะต้องพร้อมเรียนรู้เทคนิคใหม่ เทรนด์ใหม่ และรับมือกับคำวิจารณ์อย่างเป็นมืออาชีพที่สุด ต้องกล้าลองผิดลองถูกและมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ

• เหมาะสำหรับคนที่มีความมุ่งมั่น 

หลายคนที่เข้ามาทำงานในวงการแฟชั่นเริ่มต้นจากศูนย์ กว่าที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นจะต้องมีความอดทนสูง มีความอดทนและไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคได้ง่าย 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับความรู้ดีๆในเรื่อง แฟชั่นดีไซน์คืออะไร? ใช่ทางของคุณหรือไม่ ที่เรานำมาฝากกัน แฟชั่นและการออกแบบนั้น เป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราว ตัวตนของเราออกมาผ่านผลงานได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ความสวยงามเท่านั้น หากคุณเป็นคนที่ชอบการสร้างสรรค์ผลงาน สนใจองค์ประกอบรายละเอียดต่างๆ ทางนี้คือทางของคุณแน่นอน หากใครสนใจอยากเรียนต่อการออกแบบที่ต่างประเทศ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย

ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการหมุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทรนด์ ความนิยมของแฟชั่นเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นอยู่ตลอดเวลา แฟชั่นไม่ใช่เพียงความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถบ่งบอกการเป็นตัวเราเองได้ดีที่สุด หลายคนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่า สไตล์การแต่งตัว ที่สะท้อนตัวตนของเราได้ดีและใช่สำหรับเรานั้นเป็นแบบไหน วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลดีๆ มาฝากกัน จะเป็นอย่างไรต่อนั้นเราไปดูพร้อมกันได้เลย

รู้จักตัวเราเองก่อน ว่าเราเหมาะสมกับสไตล์การแต่งตัวแบบไหน?

• สำรวจและวิเคราะห์ตัวของเราเอง ทั้งในเรื่องของรูปร่าง Body Shape ของตนเอง ว่ามีสัดส่วนเป็นอย่างไร เพื่อที่เราจะสามารถเลือกเสื้อผ้าที่เน้นจุดเด่น และปิดบังจุดที่เราต้องการได้ง่ายมากที่สุด เรื่องของสีผิว โทนสีผิวของเรา ทำให้เลือกเสื้อผ้าที่สามารถขับสีผิวของเราให้ออกมาดูดี ดูสดใส มีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น สิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรูปร่างและร่างกายของเรานั้น จะช่วยให้เราเลือกสไตล์ได้ตอบโจทย์ ช่วยเสริมความน่าสนใจได้
• สำรวจบุคลิกภาพของตัวเราเอง ว่าเรานั้นเป็นที่มีนิสัยแบบใด บุคลิกแบบไหน โดยบุคลิกนั้นคือการแสดงออกทางพฤติกรรมที่ในแต่ละคนก็จะมีการแสดงออกที่แตกต่างกันออกไป บางคนเป็นคนสุขุม หรือบางคนเป็นคนที่มีความสนุกสนาน เป็นต้น เพื่อที่จะสามารถเลือกสไตล์ที่สะท้อนตัวตนหรือบุคลิกได้ดีที่สุด
• หาแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการแต่งตัว โดยเราสามารถหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัวได้จากการติดตามเทรนด์แฟชั่นทางโซเชียลมีเดีย นิตยสาร ดารา คนดัง หรือคาแรกเตอร์จากซีรีส์หรือภาพยนตร์ เลือกสไตล์ที่ชื่นชอบและทำการปรับแต่งให้เข้ากับตัวเราเอง

5 สไตล์การแต่งตัวที่สะท้อนตัวตนคุณได้ดีที่สุด

1. Minimal Style (เรียบง่ายแต่ดูดี) 

มาที่แบบแรกกันเป็นการแต่งตัวในแบบที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความเรียบง่าย สะอาดตา พิถีพิถันในรายละเอียด และไม่ซับซ้อน ทั้งในเรื่องของจำนวนชิ้นของเสื้อผ้า ดีไซน์ลูกเล่น สีเสื้อผ้าที่นำมาจับคู่ก็ใช้น้อยสี อย่างเช่น สีขาว เทา ดำ หรือเอิร์ธโทน สื่อความคิดที่บ่งบอกถึงความ น้อยแต่มาก แต่ยังดูดี มีสไตล์ และมีพลังในการสื่อสารตัวตนอย่างชัดเจน โดยเสื้อผ้าสไตล์นี้มีข้อดีคือสามารถใส่ได้นาน ไม่ตกเทรนด์ง่าย เหมาะกับคนที่มีความใส่ใจในรายละเอียด รักความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีความมั่นใจในตัวเอง และเชื่อในเรื่องของความยั่งยืน

2. Vintage Style (คลาสสิกเหนือกาลเวลา) 

การแต่งตัวที่เน้นในด้านความเก่า ความวินเทจ สะท้อนกลิ่นอายของอดีตออกมาอย่างมีเอกลักษณ์ สามารถสื่อความคิดที่บ่งบอกถึงความกล้าจะเป็นตัวของตัวเอง มีความหลงใหลในศิลปะ เหมาะกับคนที่ช่างเลือก พิถีพิถันกับการแต่งตัว ต้องการความโดดเด่นที่ไม่ซ้ำกับใคร

3. Street Style (ความกล้าคือเสน่ห์)

สไตล์ที่เน้นความเท่ มีการจับคู่เสื้อผ้าอย่างสร้างสรรค์ ไม่จำกัดเพศหรือกฎแฟชั่นแบบเดิม ๆ โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก วัฒนธรรมของคนเมือง ดนตรี ศิลปะ และชีวิตจริงบนท้องถนน สื่อความคิดที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง ไม่กลัวการโดดเด่น เชื่อมั่นในเอกลักษณ์ของตัวเอง เหมาะกับคนที่ใช้แฟชั่นเป็นพื้นที่แห่งการแสดงออก ชอบความแตกต่างและไม่กลัวคำวิจารณ์

4. Chic & Elegan (ความหรูหราที่สง่างาม)

สไตล์ที่เน้นความสวยงาม สง่างาม หรูหรา มีรสนิยม เรียบง่ายแต่ดูดีในทุกมุม สื่อความคิดที่บ่งบอกถึงการมีรสนิยม รู้จักวางแผนชีวิต มีความมั่นคง น่าเชื่อถือ และมีความเป็นผู้นำ เหมาะกับคนที่ทำงานที่ต้องพบปะผู้คนหรืออยู่ในแวดวงมืออาชีพ ใส่ใจภาพลักษณ์ ต้องการความน่าเชื่อถือ มีความมั่นใจและต้องการควบคุมสิ่งรอบตัว

5. Casual Style (เรียบง่ายแบบเป็นตัวของตัวเอง) 

สไตล์ที่เน้นความสบาย คล่องตัว ให้ความผ่อนคลาย สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ เป็นชุดที่ไม่ต้องมีความยุ่งยากซับซ้อน แต่ยังมีสไตล์ และดูดี สื่อความคิดที่รักความสบาย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพยายามมากเกินไป เหมาะกับคนที่เน้นความสบาย เน้นความอิสระ ไม่ซับซ้อน และคนที่ต้องการบาลานซ์ชีวิตระหว่างงานกับวันหยุด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับความรู้ดีๆ ที่เรานำมาฝากกัน ตัวตนของคนเรานั้นมีหลายมิติ การเลือกเสื้อผ้าสวมใส่ให้สอดคล้องกับความรู้สึกข้างในของเราในวันนั้น เป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ๆ ถ้าหากใครที่มีความชื่นชอบด้านแฟชั่น อยากเรียนต่อในต่างประเทศ ก็สามารถปรึกษาเกี่ยวกับการเรียนต่อได้ที่

ในโลกยุคปัจจุบันที่เป็นโลกของเทรนด์ใหม่ๆ วิวัฒนาการของเทคโนโลยี แฟชั่นไม่ได้เป็นเพียงแค่การแต่งตัว แต่นั่นคือการสื่อสาร และ วิถีชีวิต ส่งผลให้แฟชั่นในปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ได้รับความสนใจอย่างมาก หลายคนจึงเริ่มหันมาสนใจกับการเรียนแฟชั่น อยากเรียนรู้และเริ่มที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเรียนแฟชั่นต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในสถาบันต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ที่มีความโดดเด่นทางด้านแฟชั่น การออกแบบ ก็คงหนีไม่พ้นที่ Istituto Marangoni โดยที่นี่จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ใครก็ต่างสนใจอยากศึกษาต่อ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรียนแฟชั่นตที่ Istituto Marangoni ดีไหม? เจาะลึกสาย Fashion Design และ Fashion Business ถ้าพร้อมแล้ว เราไปศึกษาดูกันต่อเลย 

เรียนแฟชั่นต่างประเทศที่ Istituto Marangoni ดีอย่างไร?

1. การเรียนแฟชั่นที่สถาบัน Istituto Marangoni จะทำให้เรานั้นได้ศึกษาแฟชั่นจากศูนย์กลางในด้านแฟชั่นของโลก โดยที่สถาบันนี้มีการเปิดสอนในปี 1935 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแฟชั่นของโลก นอกจากนี้ยังมีวิทยาเขตที่หลากหลายที่อยู่ท่ามกลางเมืองแฟชั่นของโลกทั้ง มิลาน, ปารีส, ลอนดอน, ฟลอเรนซ์, และ ดูไบ ทำให้เรานั้นสามารถเลือกเรียนในบรรยากาศนานาชาติได้ 

2. สาขาวิชาที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการได้ทั้งหมด โดยการเรียนที่นี่นั้นเน้นการเรียนสาขา Fashion Business, Fashion design, และ Fashion styling ที่เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรีและโท นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความสนใจได้ทำการส่งประกวดเพื่อชิงทุนการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาในทุกระดับชั้นและไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในสาขาวิชาก็ได้เช่นกัน

3. อาจารย์มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและการออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะช่วยทำให้เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของนักออกแบบและแฟชั่นมือหนึ่งของโลก อาทิเช่น โอลิวิเยร์ รูสแตง (Olivier Rousteing) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของบัลแมง (Balmain), มาสซิโม จอร์เกตติ (Massimo Giorgetti) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ MSGM นอกจากนี้ยังมีศิษย์เก่าชื่อดังอย่าง Alessandra Facchinetti (อดีตดีไซเนอร์ Valentino และ Gucci) 

4. หลักสูตรที่เน้นทางด้านการปฏิบัติจริง โดยออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมทันที ได้ลองปฏิบัติงานจริงกับแบรนด์ระดับโลก มี Industry Project เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ทำให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และได้เรียนรู้ขั้นตอนในการทำงานกับแบรนด์ระดับโลก อาทิเช่น Gucci, Valentino, Armani, และ Balmain

เจาะลึกการเรียนที่ Istituto Marangoni ในแต่ละสาย

ในสาย Fashion Design

การเรียนในสาย Fashion Design จะได้เรียนในเรื่องของการออกแบบเครื่องแต่งกายในรูปแบบต่างๆ ได้เรียนการนำเสนอผลงานและการจัดแสดงงาน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ โดยมุ่งเน้นในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานกับการใช้งานได้จริง โดยจะต้องมีเนื้อหาในการเรียนในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

• เรียนการวาดภาพและสเก็ตซ์ภาพ 
• เรียนการตัดเย็บและสร้างแพทเทิร์น 
• เรียนการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ 
• เรียนประวัติศาสตร์ของแฟชั่น
• เรียนการสร้างคอลเลคชั่น
• เรียนเรื่องวัสดุและผ้า
• เรียนธุรกิจของแฟชั่น
• เรียนการนำเสนอผลงานแฟชั่นและการทำแฟชั่นโชว์

เรียนในสาย Fashion Business

การเรียนในสาย Fashion Business จะได้เรียนในเรื่องการตลาดแฟชั่น การจัดการกลยุทธ์ ทำความเข้าใจผู้บริโภคแฟชั่น เพื่อที่จะสามารถเข้าใจอุตสาหกรรมแฟชั่นและสร้างธุรกิจแฟชั่นที่ดีขึ้นมาได้ โดยจะต้องมีเนื้อหาในการเรียนในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

• เรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแฟชั่นในแต่ละยุคสมัย
• เรียนเกี่ยวกับระบบอุตสาหกรรมของแฟชั่นในด้านการผลิตและกระบวนการในการผลิต
• เรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ
• เรียนเกี่ยวกับกระแสนิยมและเทรนด์ของแฟชั่นในยุคปัจจุบัน
• เรียนเรื่องตลาดผู้บริโภค 

จบไปแล้วนะคะ กับความรู้ดีๆ ที่เรานำมาฝากในเรื่องเรียนแฟชั่นที่ Istituto Marangoni ดีไหม? เจาะลึกสาย Fashion Design และ Fashion Business การเรียนแฟชั่นต่างประเทศ คงเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะจะช่วยเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ และยังช่วยให้เรานั้นได้เรียนรู้การทำงานจริงของแฟชั่นสากลของโลกได้อีกด้วย หากใครที่กำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเรียนแฟชั่นต่างประเทศ หรือศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่ ต้องการที่ปรึกษาดีๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง

แฟชั่นในยุคนี้เป็นสิ่งที่เป็นมากกว่าการแต่งตัว แต่คือ การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ และพลังทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลที่ทำการออกแบบ ส่งผลให้แฟชั่นในปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และได้รับความสนใจสูง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีโลกดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ได้เปิดประตูสู่อาชีพใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ การเรียนแฟชั่นจึงกลายเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หลายคนให้ความสนใจอย่างจริงจัง เพราะสามารถนำไปต่อยอดในอาชีพที่หลากหลายได้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับโลกของแฟชั่นให้มากยิ่งขึ้นผ่านเรื่อง เรียนแฟชั่นทำงานอะไรได้บ้าง? อัปเดตสายอาชีพมาแรง 2025 จะมีอาชีพไหนน่าสนใจบ้างนั้นเราไปดูกันต่อได้เลย 

เรียนแฟชั่นทำงานอะไรได้บ้าง?

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 1 : นักออกแบบแฟชั่น (Fashion Designer)

เริ่มที่อาชีพแรกที่มาแรงอย่างมากในปี 2025 ทางด้านแฟชั่น นั่นก็คือ อาชีพนักออกแบบแฟชั่น (Fashion Designer) เป็นอาชีพคลาสสิกที่เป็นหัวใจของวงการแฟชั่นและการออกแบบ มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นแล้วนำมาออกแบบสินค้าแฟชั่นที่ตนเองถนัด เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือสินค้าด้านแฟชั่นอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงการออกแบบทางด้านเนื้อผ้า และลวดลายที่มีความสวยงามเหมาะสม โดยคำนึงถึงปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆทางด้านการออกแบบ เช่น สรีระผู้สวมใส่ ลวดลายหรือสี โดยอาชีพนี้จะต้องมีทักษะทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการวาด/สเก็ตช์ และเข้าใจโครงสร้างเสื้อผ้า ที่สามารถนำเสนอรูปแบบเสื้อผ้าออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นภาพมากที่สุด

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 2 : นักออกแบบแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Designer)

อาชีพนักออกแบบแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Designer) คือผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายในรูปแบบดิจิทัล 3 มิติ โดยไม่จำเป็นต้องผลิตเสื้อผ้าออกมาจริงๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มาแรงอย่างมากในปี 2025 เพราะเป็นยุคดิจิตัลที่แฟชั่นกำลังขยายเข้าสู่พื้นที่ออนไลน์, Metaverse, เกม, NFT และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยอาชีพนี้นอกจากจะต้องมีทักษะทางด้านความคิดสร้างสรรค์แล้วนั้น จะต้องมีทักษะการใช้โปรแกรมที่เกี่ยวข้องและจำเป็นอย่างเช่นการใช้โปรแกรมอย่าง CLO 3D, Marvelous Designer, และ Blender เป็นต้น

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 3 : สไตลิสต์ (Fashion Stylist)

อาชีพสไตลิสต์ (Fashion Stylist) คือ อาชีพที่ทำการจัดลุค และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ และองค์ประกอบให้ออกมาดูดีที่สุด เหมาะกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ถ่ายแฟชั่นเซต งานโฆษณา มิวสิกวิดีโอ งานอีเวนต์ เวทีสาธารณะ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน โดยนอกจากนี้อาชีพนี้งยังต้องทำงานร่วมกับแบรนด์ ร้านเสื้อผ้า หรือดีไซเนอร์ เพื่อยืม/จัดหาชุด ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ โดยอาชีพนี้นั้นจะต้องมีทักษะทางด้านการจัดการแฟชั่น มีเซนส์แฟชั่นดี วิเคราะห์ภาพรวมของลุคได้แม่นยำ

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 4 : ผู้สร้างแบรนด์แฟชั่น (Fashion Entrepreneur)

อีกหนึ่งอาชีพที่เหมาะสำหรับคนที่เรียนแฟชั่น มาแรง และมีอิสรภาพสูงในวงการแฟชั่น นั่นก็คือ อาชีพผู้สร้างแบรนด์แฟชั่น (Fashion Entrepreneur) เป็นผู้ที่เริ่มต้น สร้าง และบริหารแบรนด์แฟชั่นของตัวเอง โดยผสมผสานทักษะด้าน การออกแบบแฟชั่น เข้ากับความรู้ทางด้าน ธุรกิจ การตลาด และการจัดการ โดยผสมผสานกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างสินค้าและภาพลักษณ์แบรนด์ที่โดดเด่น ตรงใจผู้บริโภค และสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้ โดยอาชีพนี้จะต้องทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ โรงงาน และแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ จึงต้องมีทักษะทางด้านการออกแบบที่ดี การติดต่อสื่อสาร และทักษะทางด้านการจัดการและการตลาด

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 5 : ผู้จัดแฟชั่นโชว์ / แฟชั่นโปรดิวเซอร์ (Fashion Show Producer / Event Coordinator) 

มาถึงอาชีพสุดท้ายที่ตอบโจทย์คำถามว่าทำงานอะไรได้บ้าง? นั่นก็คือ อาชีพผู้จัดแฟชั่นโชว์ / แฟชั่นโปรดิวเซอร์ (Fashion Show Producer / Event Coordinator) เป็นผู้วางแผน คุมงาน สร้างประสบการณ์ให้กับแฟชั่นโชว์หรืออีเวนต์ต่างๆ สามารถนำเสนอการออกแบบให้มีความน่าสนใจ สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ โดยอาชีพนี้จะต้องมีการทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ ทีมโปรดักชัน และฝ่ายสื่อ โดยต้องมีทักษะทางด้านการจัดการ การออกแบบ และการสร้างความประทับใจ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลในเรื่องเรียนแฟชั่นทำงานอะไรได้บ้าง? อัปเดตสายอาชีพมาแรง 2025 ที่เรานำมาฝากกัน การเรียนแฟชั่นนั้น ยังสามารถนำไปต่อยอดในอาชีพต่างๆได้อีกหลากหลายอาชีพ เพราะไม่จำกัดแค่การออกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างทางด้านการออกแบบอีกมากมาย หากใครที่สนใจอยากเรียนต่อต่างประเทศ กำลังศึกษาข้อมูล แต่ต้องการที่ปรึกษาดีๆ ก็สามารถสอบถามข้อมูลหรือติดต่อได้ที่นี่เลย

ในปัจจุบัน “แฟชั่น” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการแต่งกายเพื่อความสวยงามอีกต่อไป เพราะแฟชั่นนั้น เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ บุคลิกภาพ ความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้แฟชั่น กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้หลายคนหันมาสนใจกับการเรียนด้านแฟชั่น อยากเรียนรู้และก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเรียนด้านแฟชั่น แต่ก็ยังมีคำถามสำคัญที่ตามมาว่า “เรียนแฟชั่นคืออะไร?” และ “จะต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง” วันนี้เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้เพิ่มเติมและทำความรู้จักกับการเรียนผ่านบทความนี้กัน

เรียนแฟชั่นคืออะไร?

การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง และองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ การผลิต ตลาดแฟชั่น Fashion Managemen และการนำเสนอผลงานแฟชั่นอย่างเป็นระบบ ซึ่งการเรียนั้น มีทั้งการเรียนในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่กันไป โดยต้องเรียนรู้ตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์แฟชั่น ลงมืออกแบบด้วยมือหรือโปรแกรมที่ช่วยในการออกแบบ การทำแฟตเทิร์น การเลือกใช้วัสดุ การตัดเย็บ และการจัดการนำเสนอผลงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งแฟชั่นโชว์หรือนำเสนอในแฟลตฟอร์มต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้แฟชั่นที่ดีควรมีเอกลักษ์เฉพาะตัวของเราใส่ไปให้ดูน่าสนใจอีกด้วย

ต้องมีพื้นฐานอะไรบ้างถึงจะเริ่มได้?

การเริ่มเรียนด้านแฟชั่น ไม่ได้ต้องมีความชำนาญหรือเก่งในทุกๆด้านตั้งแต่แรก แต่การมีพื้นฐานจะช่วยให้เรานั้นสามารถเรียนรู้ได้ง่าย เข้าใจบทเรียนและพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว มีพื้นฐานที่ควรรู้ดังต่อไปนี้

1. พื้นฐานทางด้านการวาดภาพและการสื่อสารไอเดียต่างๆออกมาอย่างชัดเจน โดยเริ่มต้นจากการวาดรูปเพื่อสเก็ตช์หรือร่างแบบเบื้องต้นสำหรับการสื่อสารไอเดียออกมาให้เห็นภาพได้ชัดเจน หรือถ้าหากไม่ถนัดวาดภาพด้วยมือก็เรียนรู้การใช้โปรแกรมต่างๆที่เกี่ยวข้องในการออกแบบ เช่น Clo 3D, Adobe Illustrator, Photoshop และเรียนรู้การ Fashion Illustration จะช่วยให้ถ่ายทอดแบบเสื้อผ้า ความรู้สึกของผ้า และสไตล์ออกมาได้อย่างชัดเจน

2. พื้นฐานทางด้านความคิดสร้างสรรค์ สิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเรียนออกแบบและแฟชั่นคือความคิดสร้างสรรค์ เราควรที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นในแบบของเราเอง เพราะแฟชั่นนั้นคือการ “สร้างสิ่งใหม่” หรือ “ตีความสิ่งเดิม” ให้น่าสนใจขึ้น กล้าที่จะทดลอง กล้าคิด กล้าทำ หรือเปิดรับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรี วัฒนธรรม และสิ่งรอบตัวร่วมด้วย

3. พื้นฐานทางด้านการสนใจแฟชั่นและการสังเกตสิ่งต่างๆ โดยการติดตามเทรนด์แฟชั่น วิเคราะห์เสื้อผ้าในชีวิตประจำวันของเรา  เลือกดูแฟชั่นโชว์ หรือศึกษาผลงานดีไซเนอร์ชื่อดังที่เราสนใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้มากที่สุด นอกจากความคิดสร้างสรรค์แล้วควรที่จะทำควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆทั้งเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน ความเหมาะสมในด้านต่างๆ เพื่อที่จะออกแบบได้อย่างลงตัว

4. พื้นฐานความเข้าใจด้านสี รูปร่าง และสัดส่วน พื้นฐานข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆจะช่วยให้เราสามารถออกแบบแฟชั่นให้สามารถดึงดูดความสนใจได้ โดยเราต้องทำความเข้าใจการเลือกใช้สีต่างๆ ให้มีความเหมาะสมกับโทนผิว รูปร่าง หรือธีมของคอลเลกชัน ออกแบบให้เข้ากับสรีระรูปร่างของแต่ละคนได้ในทุกหุ่นและสามารถส่งเสริมให้ทุกคนดูดีขึ้นได้ รวมถึงเรียนรู้การบาลานซ์ของดีไซน์ เช่น การจัดวางลวดลาย ความสมดุลขององค์ประกอบ ให้เหมาะสมที่สุด

5.  พื้นฐานการตัดเย็บเบื้องต้น ข้อนี้เป็นพื้นฐานที่ไม่มีไม่เป็นไรเพราะสามารถเรียนรู้กันได้ แต่ถ้ามีจะได้เปรียบ โดยเราจะต้องรู้จักจักรเย็บผ้า พื้นฐานการเย็บมือ และการเข้าใจโครงสร้างเสื้อผ้า ฝึกการทำแพตเทิร์น (Pattern Making) และการสร้างชิ้นงานจริง เพื่อเห็นผลงานเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น

6. ทักษะด้านซอฟต์สกิล (Soft Skills) ทั้งความอดทนและความละเอียด การจัดการเวลาและทำงานเป็นทีม และสามารถรับคำติและพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง

จบไปแล้วนะคะกับข้อมูลดีๆในเรื่องเรียนแฟชั่นคืออะไร? ต้องมีพื้นฐานอะไรบ้างถึงจะเริ่มได้ ที่เรานำมาฝากกัน การมีความรู้พื้นฐานทางด้านแฟชั่นจะช่วยให้เราเรียนรู้ทางด้านการออกแบบได้ดี มีความเข้าใจและสามารถพัฒนาทางด้านการออกแบบของเราให้เป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดความสนใจได้ดีที่สุด ซึ่งหากใครที่สนใจเรียนต่อทางด้านแฟชั่นในต่างประเทศ กำลังศึกษาหาข้อมูลต้องการคำแนะนำดีๆ หรือที่ปรึกษาในเรื่องของการเรียนต่อ ก็สามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง line @dpeducation