Blog

ในโลกยุคปัจจุบันที่เป็นโลกของเทรนด์ใหม่ๆ วิวัฒนาการของเทคโนโลยี แฟชั่นไม่ได้เป็นเพียงแค่การแต่งตัว แต่นั่นคือการสื่อสาร และ วิถีชีวิต ส่งผลให้แฟชั่นในปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ได้รับความสนใจอย่างมาก หลายคนจึงเริ่มหันมาสนใจกับการเรียนแฟชั่น อยากเรียนรู้และเริ่มที่จะก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเรียนแฟชั่นต่างประเทศ ซึ่งหนึ่งในสถาบันต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ที่มีความโดดเด่นทางด้านแฟชั่น การออกแบบ ก็คงหนีไม่พ้นที่ Istituto Marangoni โดยที่นี่จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ใครก็ต่างสนใจอยากศึกษาต่อ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรียนแฟชั่นตที่ Istituto Marangoni ดีไหม? เจาะลึกสาย Fashion Design และ Fashion Business ถ้าพร้อมแล้ว เราไปศึกษาดูกันต่อเลย 

เรียนแฟชั่นต่างประเทศที่ Istituto Marangoni ดีอย่างไร?

1. การเรียนแฟชั่นที่สถาบัน Istituto Marangoni จะทำให้เรานั้นได้ศึกษาแฟชั่นจากศูนย์กลางในด้านแฟชั่นของโลก โดยที่สถาบันนี้มีการเปิดสอนในปี 1935 ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองหลวงแฟชั่นของโลก นอกจากนี้ยังมีวิทยาเขตที่หลากหลายที่อยู่ท่ามกลางเมืองแฟชั่นของโลกทั้ง มิลาน, ปารีส, ลอนดอน, ฟลอเรนซ์, และ ดูไบ ทำให้เรานั้นสามารถเลือกเรียนในบรรยากาศนานาชาติได้ 

2. สาขาวิชาที่หลากหลายครอบคลุมความต้องการได้ทั้งหมด โดยการเรียนที่นี่นั้นเน้นการเรียนสาขา Fashion Business, Fashion design, และ Fashion styling ที่เปิดสอนทั้งระดับปริญญาตรีและโท นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความสนใจได้ทำการส่งประกวดเพื่อชิงทุนการศึกษาในแต่ละสาขาวิชาในทุกระดับชั้นและไม่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในสาขาวิชาก็ได้เช่นกัน

3. อาจารย์มีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและการออกแบบจากทั่วทุกมุมโลก ที่จะช่วยทำให้เราได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของนักออกแบบและแฟชั่นมือหนึ่งของโลก อาทิเช่น โอลิวิเยร์ รูสแตง (Olivier Rousteing) ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของบัลแมง (Balmain), มาสซิโม จอร์เกตติ (Massimo Giorgetti) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แบรนด์ MSGM นอกจากนี้ยังมีศิษย์เก่าชื่อดังอย่าง Alessandra Facchinetti (อดีตดีไซเนอร์ Valentino และ Gucci) 

4. หลักสูตรที่เน้นทางด้านการปฏิบัติจริง โดยออกแบบมาเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมทันที ได้ลองปฏิบัติงานจริงกับแบรนด์ระดับโลก มี Industry Project เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ทำให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และได้เรียนรู้ขั้นตอนในการทำงานกับแบรนด์ระดับโลก อาทิเช่น Gucci, Valentino, Armani, และ Balmain

เจาะลึกการเรียนที่ Istituto Marangoni ในแต่ละสาย

ในสาย Fashion Design

การเรียนในสาย Fashion Design จะได้เรียนในเรื่องของการออกแบบเครื่องแต่งกายในรูปแบบต่างๆ ได้เรียนการนำเสนอผลงานและการจัดแสดงงาน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ โดยมุ่งเน้นในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ผสมผสานกับการใช้งานได้จริง โดยจะต้องมีเนื้อหาในการเรียนในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

• เรียนการวาดภาพและสเก็ตซ์ภาพ 
• เรียนการตัดเย็บและสร้างแพทเทิร์น 
• เรียนการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ 
• เรียนประวัติศาสตร์ของแฟชั่น
• เรียนการสร้างคอลเลคชั่น
• เรียนเรื่องวัสดุและผ้า
• เรียนธุรกิจของแฟชั่น
• เรียนการนำเสนอผลงานแฟชั่นและการทำแฟชั่นโชว์

เรียนในสาย Fashion Business

การเรียนในสาย Fashion Business จะได้เรียนในเรื่องการตลาดแฟชั่น การจัดการกลยุทธ์ ทำความเข้าใจผู้บริโภคแฟชั่น เพื่อที่จะสามารถเข้าใจอุตสาหกรรมแฟชั่นและสร้างธุรกิจแฟชั่นที่ดีขึ้นมาได้ โดยจะต้องมีเนื้อหาในการเรียนในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

• เรียนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของแฟชั่นในแต่ละยุคสมัย
• เรียนเกี่ยวกับระบบอุตสาหกรรมของแฟชั่นในด้านการผลิตและกระบวนการในการผลิต
• เรียนเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ
• เรียนเกี่ยวกับกระแสนิยมและเทรนด์ของแฟชั่นในยุคปัจจุบัน
• เรียนเรื่องตลาดผู้บริโภค 

จบไปแล้วนะคะ กับความรู้ดีๆ ที่เรานำมาฝากในเรื่องเรียนแฟชั่นที่ Istituto Marangoni ดีไหม? เจาะลึกสาย Fashion Design และ Fashion Business การเรียนแฟชั่นต่างประเทศ คงเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะจะช่วยเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ และยังช่วยให้เรานั้นได้เรียนรู้การทำงานจริงของแฟชั่นสากลของโลกได้อีกด้วย หากใครที่กำลังเตรียมตัวเพื่อสอบเรียนแฟชั่นต่างประเทศ หรือศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่ ต้องการที่ปรึกษาดีๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง

แฟชั่นในยุคนี้เป็นสิ่งที่เป็นมากกว่าการแต่งตัว แต่คือ การสื่อสาร ความคิดสร้างสรรค์ และพลังทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลที่ทำการออกแบบ ส่งผลให้แฟชั่นในปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งที่น่าสนใจ และได้รับความสนใจสูง โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีโลกดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ได้เปิดประตูสู่อาชีพใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ การเรียนแฟชั่นจึงกลายเป็นหนึ่งในเส้นทางที่หลายคนให้ความสนใจอย่างจริงจัง เพราะสามารถนำไปต่อยอดในอาชีพที่หลากหลายได้ วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปรู้จักกับโลกของแฟชั่นให้มากยิ่งขึ้นผ่านเรื่อง เรียนแฟชั่นทำงานอะไรได้บ้าง? อัปเดตสายอาชีพมาแรง 2025 จะมีอาชีพไหนน่าสนใจบ้างนั้นเราไปดูกันต่อได้เลย 

เรียนแฟชั่นทำงานอะไรได้บ้าง?

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 1 : นักออกแบบแฟชั่น (Fashion Designer)

เริ่มที่อาชีพแรกที่มาแรงอย่างมากในปี 2025 ทางด้านแฟชั่น นั่นก็คือ อาชีพนักออกแบบแฟชั่น (Fashion Designer) เป็นอาชีพคลาสสิกที่เป็นหัวใจของวงการแฟชั่นและการออกแบบ มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นแล้วนำมาออกแบบสินค้าแฟชั่นที่ตนเองถนัด เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือสินค้าด้านแฟชั่นอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงการออกแบบทางด้านเนื้อผ้า และลวดลายที่มีความสวยงามเหมาะสม โดยคำนึงถึงปัจจัยและองค์ประกอบต่างๆทางด้านการออกแบบ เช่น สรีระผู้สวมใส่ ลวดลายหรือสี โดยอาชีพนี้จะต้องมีทักษะทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการวาด/สเก็ตช์ และเข้าใจโครงสร้างเสื้อผ้า ที่สามารถนำเสนอรูปแบบเสื้อผ้าออกมาได้อย่างชัดเจน เห็นภาพมากที่สุด

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 2 : นักออกแบบแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Designer)

อาชีพนักออกแบบแฟชั่นดิจิทัล (Digital Fashion Designer) คือผู้สร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายในรูปแบบดิจิทัล 3 มิติ โดยไม่จำเป็นต้องผลิตเสื้อผ้าออกมาจริงๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มาแรงอย่างมากในปี 2025 เพราะเป็นยุคดิจิตัลที่แฟชั่นกำลังขยายเข้าสู่พื้นที่ออนไลน์, Metaverse, เกม, NFT และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยอาชีพนี้นอกจากจะต้องมีทักษะทางด้านความคิดสร้างสรรค์แล้วนั้น จะต้องมีทักษะการใช้โปรแกรมที่เกี่ยวข้องและจำเป็นอย่างเช่นการใช้โปรแกรมอย่าง CLO 3D, Marvelous Designer, และ Blender เป็นต้น

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 3 : สไตลิสต์ (Fashion Stylist)

อาชีพสไตลิสต์ (Fashion Stylist) คือ อาชีพที่ทำการจัดลุค และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีด้วยเสื้อผ้า เครื่องประดับ และองค์ประกอบให้ออกมาดูดีที่สุด เหมาะกับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ถ่ายแฟชั่นเซต งานโฆษณา มิวสิกวิดีโอ งานอีเวนต์ เวทีสาธารณะ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน โดยนอกจากนี้อาชีพนี้งยังต้องทำงานร่วมกับแบรนด์ ร้านเสื้อผ้า หรือดีไซเนอร์ เพื่อยืม/จัดหาชุด ช่างภาพ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์ โดยอาชีพนี้นั้นจะต้องมีทักษะทางด้านการจัดการแฟชั่น มีเซนส์แฟชั่นดี วิเคราะห์ภาพรวมของลุคได้แม่นยำ

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 4 : ผู้สร้างแบรนด์แฟชั่น (Fashion Entrepreneur)

อีกหนึ่งอาชีพที่เหมาะสำหรับคนที่เรียนแฟชั่น มาแรง และมีอิสรภาพสูงในวงการแฟชั่น นั่นก็คือ อาชีพผู้สร้างแบรนด์แฟชั่น (Fashion Entrepreneur) เป็นผู้ที่เริ่มต้น สร้าง และบริหารแบรนด์แฟชั่นของตัวเอง โดยผสมผสานทักษะด้าน การออกแบบแฟชั่น เข้ากับความรู้ทางด้าน ธุรกิจ การตลาด และการจัดการ โดยผสมผสานกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างสินค้าและภาพลักษณ์แบรนด์ที่โดดเด่น ตรงใจผู้บริโภค และสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้ โดยอาชีพนี้จะต้องทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ โรงงาน และแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ จึงต้องมีทักษะทางด้านการออกแบบที่ดี การติดต่อสื่อสาร และทักษะทางด้านการจัดการและการตลาด

อาชีพมาแรงอาชีพที่ 5 : ผู้จัดแฟชั่นโชว์ / แฟชั่นโปรดิวเซอร์ (Fashion Show Producer / Event Coordinator) 

มาถึงอาชีพสุดท้ายที่ตอบโจทย์คำถามว่าทำงานอะไรได้บ้าง? นั่นก็คือ อาชีพผู้จัดแฟชั่นโชว์ / แฟชั่นโปรดิวเซอร์ (Fashion Show Producer / Event Coordinator) เป็นผู้วางแผน คุมงาน สร้างประสบการณ์ให้กับแฟชั่นโชว์หรืออีเวนต์ต่างๆ สามารถนำเสนอการออกแบบให้มีความน่าสนใจ สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ โดยอาชีพนี้จะต้องมีการทำงานร่วมกับดีไซเนอร์ ทีมโปรดักชัน และฝ่ายสื่อ โดยต้องมีทักษะทางด้านการจัดการ การออกแบบ และการสร้างความประทับใจ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลในเรื่องเรียนแฟชั่นทำงานอะไรได้บ้าง? อัปเดตสายอาชีพมาแรง 2025 ที่เรานำมาฝากกัน การเรียนแฟชั่นนั้น ยังสามารถนำไปต่อยอดในอาชีพต่างๆได้อีกหลากหลายอาชีพ เพราะไม่จำกัดแค่การออกแบบเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังเปิดกว้างทางด้านการออกแบบอีกมากมาย หากใครที่สนใจอยากเรียนต่อต่างประเทศ กำลังศึกษาข้อมูล แต่ต้องการที่ปรึกษาดีๆ ก็สามารถสอบถามข้อมูลหรือติดต่อได้ที่นี่เลย

ในปัจจุบัน “แฟชั่น” ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการแต่งกายเพื่อความสวยงามอีกต่อไป เพราะแฟชั่นนั้น เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ บุคลิกภาพ ความคิดสร้างสรรค์ ส่งผลให้แฟชั่น กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลง และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้หลายคนหันมาสนใจกับการเรียนด้านแฟชั่น อยากเรียนรู้และก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเรียนด้านแฟชั่น แต่ก็ยังมีคำถามสำคัญที่ตามมาว่า “เรียนแฟชั่นคืออะไร?” และ “จะต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง” วันนี้เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้เพิ่มเติมและทำความรู้จักกับการเรียนผ่านบทความนี้กัน

เรียนแฟชั่นคืออะไร?

การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอาง และองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ การผลิต ตลาดแฟชั่น Fashion Managemen และการนำเสนอผลงานแฟชั่นอย่างเป็นระบบ ซึ่งการเรียนั้น มีทั้งการเรียนในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่กันไป โดยต้องเรียนรู้ตั้งแต่การวิเคราะห์เทรนด์แฟชั่น ลงมืออกแบบด้วยมือหรือโปรแกรมที่ช่วยในการออกแบบ การทำแฟตเทิร์น การเลือกใช้วัสดุ การตัดเย็บ และการจัดการนำเสนอผลงานในรูปแบบต่างๆ ทั้งแฟชั่นโชว์หรือนำเสนอในแฟลตฟอร์มต่างๆ เป็นต้น ทั้งนี้แฟชั่นที่ดีควรมีเอกลักษ์เฉพาะตัวของเราใส่ไปให้ดูน่าสนใจอีกด้วย

ต้องมีพื้นฐานอะไรบ้างถึงจะเริ่มได้?

การเริ่มเรียนด้านแฟชั่น ไม่ได้ต้องมีความชำนาญหรือเก่งในทุกๆด้านตั้งแต่แรก แต่การมีพื้นฐานจะช่วยให้เรานั้นสามารถเรียนรู้ได้ง่าย เข้าใจบทเรียนและพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว มีพื้นฐานที่ควรรู้ดังต่อไปนี้

1. พื้นฐานทางด้านการวาดภาพและการสื่อสารไอเดียต่างๆออกมาอย่างชัดเจน โดยเริ่มต้นจากการวาดรูปเพื่อสเก็ตช์หรือร่างแบบเบื้องต้นสำหรับการสื่อสารไอเดียออกมาให้เห็นภาพได้ชัดเจน หรือถ้าหากไม่ถนัดวาดภาพด้วยมือก็เรียนรู้การใช้โปรแกรมต่างๆที่เกี่ยวข้องในการออกแบบ เช่น Clo 3D, Adobe Illustrator, Photoshop และเรียนรู้การ Fashion Illustration จะช่วยให้ถ่ายทอดแบบเสื้อผ้า ความรู้สึกของผ้า และสไตล์ออกมาได้อย่างชัดเจน

2. พื้นฐานทางด้านความคิดสร้างสรรค์ สิ่งที่สำคัญมากสำหรับการเรียนออกแบบและแฟชั่นคือความคิดสร้างสรรค์ เราควรที่จะมีความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์และมีความโดดเด่นในแบบของเราเอง เพราะแฟชั่นนั้นคือการ “สร้างสิ่งใหม่” หรือ “ตีความสิ่งเดิม” ให้น่าสนใจขึ้น กล้าที่จะทดลอง กล้าคิด กล้าทำ หรือเปิดรับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะ ภาพยนตร์ ดนตรี วัฒนธรรม และสิ่งรอบตัวร่วมด้วย

3. พื้นฐานทางด้านการสนใจแฟชั่นและการสังเกตสิ่งต่างๆ โดยการติดตามเทรนด์แฟชั่น วิเคราะห์เสื้อผ้าในชีวิตประจำวันของเรา  เลือกดูแฟชั่นโชว์ หรือศึกษาผลงานดีไซเนอร์ชื่อดังที่เราสนใจและเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้มากที่สุด นอกจากความคิดสร้างสรรค์แล้วควรที่จะทำควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆทั้งเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบัน ความเหมาะสมในด้านต่างๆ เพื่อที่จะออกแบบได้อย่างลงตัว

4. พื้นฐานความเข้าใจด้านสี รูปร่าง และสัดส่วน พื้นฐานข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งข้อที่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะการเข้าใจในองค์ประกอบต่างๆจะช่วยให้เราสามารถออกแบบแฟชั่นให้สามารถดึงดูดความสนใจได้ โดยเราต้องทำความเข้าใจการเลือกใช้สีต่างๆ ให้มีความเหมาะสมกับโทนผิว รูปร่าง หรือธีมของคอลเลกชัน ออกแบบให้เข้ากับสรีระรูปร่างของแต่ละคนได้ในทุกหุ่นและสามารถส่งเสริมให้ทุกคนดูดีขึ้นได้ รวมถึงเรียนรู้การบาลานซ์ของดีไซน์ เช่น การจัดวางลวดลาย ความสมดุลขององค์ประกอบ ให้เหมาะสมที่สุด

5.  พื้นฐานการตัดเย็บเบื้องต้น ข้อนี้เป็นพื้นฐานที่ไม่มีไม่เป็นไรเพราะสามารถเรียนรู้กันได้ แต่ถ้ามีจะได้เปรียบ โดยเราจะต้องรู้จักจักรเย็บผ้า พื้นฐานการเย็บมือ และการเข้าใจโครงสร้างเสื้อผ้า ฝึกการทำแพตเทิร์น (Pattern Making) และการสร้างชิ้นงานจริง เพื่อเห็นผลงานเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนขึ้น

6. ทักษะด้านซอฟต์สกิล (Soft Skills) ทั้งความอดทนและความละเอียด การจัดการเวลาและทำงานเป็นทีม และสามารถรับคำติและพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง

จบไปแล้วนะคะกับข้อมูลดีๆในเรื่องเรียนแฟชั่นคืออะไร? ต้องมีพื้นฐานอะไรบ้างถึงจะเริ่มได้ ที่เรานำมาฝากกัน การมีความรู้พื้นฐานทางด้านแฟชั่นจะช่วยให้เราเรียนรู้ทางด้านการออกแบบได้ดี มีความเข้าใจและสามารถพัฒนาทางด้านการออกแบบของเราให้เป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดความสนใจได้ดีที่สุด ซึ่งหากใครที่สนใจเรียนต่อทางด้านแฟชั่นในต่างประเทศ กำลังศึกษาหาข้อมูลต้องการคำแนะนำดีๆ หรือที่ปรึกษาในเรื่องของการเรียนต่อ ก็สามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง line @dpeducation

ในปัจจุบันนี้เป็นยุคของการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด การเสริมทักษะหาความรู้ใหม่ๆ ตามที่เราสนใจนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หนึ่งในศาสตร์สาขาที่หลายคนให้ความสนใจ ก็คือด้านแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ โดยสถาบันที่โดดเด่น มีชื่อเสียงทางด้านของการออกแบบ นั่นก็คือ สถาบัน DOMUS ACADEMY นั่นเอง วันนี้เราจึงจะพาทุกคนนั้นไปทำความรู้จักกับ 5 หลักสูตรระยะสั้น จาก DOMUS ACADEMY ว่ามีหลักสูตรไหนที่น่าสนใจในการพัฒนาทักษะเฉพาะทางในด้านต่างๆ กันได้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วนั้น เราไปดูกันได้เลย

5 หลักสูตรระยะสั้น จาก DOMUS ACADEMY 

• หลักสูตรการออกแบบ (Design Courses)

หลักสูตรระยะสั้นที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนไปที่การออกแบบในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะ อย่างเช่นการออกแบบภายใน การออกแบบบริการ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ เป็นต้น เน้นการใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ รวมถึงการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการออกแบบกับความต้องการ และเทรนด์ความนิยมของท้องตลาดอีกด้วย ตัวอย่างคอร์สเรียนในหลักสูตรออกแบบ มีดังนี้

1. Interior & Living Design (การออกแบบภายในและการออกแบบสิ่งแวดล้อม) สอนด้านการออกแบบตกแต่งภายในและการออกแบบสิ่งแวดล้อมภายในบ้านหรือสำนักงาน เน้นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบพื้นที่ที่ใช้งานได้จริง สร้างบรรยากาศที่เหมาะสมกับการใช้งาน 
2. Product Design (การออกแบบผลิตภัณฑ์) สอนในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในสังคม เน้นไปที่กระบวนการคิดที่มีความสร้างสรรค์ สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และมีการออกแบบที่ยั่งยืน
3. Interaction Design (การออกแบบประสบการณ์การใช้งาน) สอนในเรื่องการออกแบบประสบการณ์การใช้งาน ที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้ง่าย รวมทั้งมีความสะดวกอีกด้วย
4. Service Design (การออกแบบบริการ) สอนในด้านการออกแบบบริการให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้

• หลักสูตรแฟชั่น (Fashion Courses) 

มุ่งเน้นการเรียนการสอนไปในด้านแฟชั่น การออกแบบแฟชั่น การจัดสไตล์ให้เหมาะสม เข้าใจเทรนด์ต่างๆที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย เน้นการใช้ทักษะและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบเสื้อผ้าและแฟชั่น ตัวอย่างคอร์สเรียนในหลักสูตรแฟชั่น มีดังนี้

1. Fashion Design (การออกแบบแฟชั่น) สอนในด้านการออกแบบแฟชั่นให้ตอบโจทย์กับความต้องการ ตามเทรนด์ และกระแสนิยมได้ทันทุกช่วงเวลา สามารถสื่อสารความหมายของการออกแบบได้ดีที่สุด 
2. Fashion Styling & Visual Merchandising (การจัดแต่งสไตล์แฟชั่นและการจัดวางสินค้า) สอนในด้านการจัดแต่งสไตล์แฟชั่น ทั้งการเลือกเสื้อผ้า เครื่องประดับ เพื่อสร้างลุคให้ดูดี ตามเทรนด์ และมีความสวยงาม รวมทั้งสอนการตกแต่งหน้าร้าน วางสินค้าให้มีเอกลักษณ์ โดดเด่น สามารถถ่ายทอดภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้น่าสนใจ และดึงดูดใจลูกค้าได้มากที่สุด

• หลักสูตรธุรกิจ (Business Courses)

มุ่งเน้นการเรียนการสอนไปที่การบริหารจัดการธุรกิจแฟชั่น การออกแบบ การสร้างแบรนด์ และการพัฒนาแบรนด์ให้เติบโต นำความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนานวัตกรรม และธุรกิจใหม่ๆ ตัวอย่างคอร์สเรียนในหลักสูตรธุรกิจ มีดังนี้

1. Fashion Management (การจัดการแฟชั่น) สอนในเรื่องการการตลาด การจัดซื้อ จัดขาย และการผลิตในธุรกิจแฟขั่น 
2. Business Design (การออกแบบธุรกิจ) สอนในด้านการออกแบบธุรกิจให้มีความน่าสนใจ สามารถสร้างแบรนด์ จัดการแบรนด์และพัฒนาต่อยอดแบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น
3. Luxury Brand Management (การจัดการแบรนด์สินค้าหรูหรา) สอนในด้านการสร้างและพัฒนาแบรนด์สินค้าหรูหรา ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า สร้างมูลค่าได้

• หลักสูตรการสื่อสารดิจิทัลและโซเชียลมีเดียสำหรับแฟชั่น (Digital Communication & Social Media for Fashion)

หลักสูตรที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนไปที่การสร้างสรรค์กลยุทธ์โซเชียลมีเดียให้กับแบรนด์ เข้าใจการใช้เครื่องมือดิจิทัล และโซเชียลมีเดียในการสร้าง ส่งเสริมแบรนด์แฟชั่น สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้แบรนด์แฟชั่นเติบโตในโลกออนไลน์ สามารถขยายตลาดในอุตสาหกรรมแฟชั่นไปได้กว้างขวางมากขึ้น 

หลักสูตรเทคนิคการเลือกซื้อเสื้อผ้าแฟชั่น (Fashion Buying Techniques) 

มุ่งเน้นการเรียนในด้านเทคนิค กลยุทธ์ในการซื้อ และเลือกสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น การศึกษาตลาด การคาดการณ์เทรนด์แฟชั่น การคัดเลือกสินค้าที่เหมาะสม มีความสวยงาม น่าสนใจ เพื่อนำไปจำหน่ายในร้านค้าหรือออนไลน์

จบไปแล้วนะคะ กับข้อมูลดีๆในเรื่อง 5 หลักสูตรระยะสั้น จาก DOMUS ACADEMY ที่เราได้นำมาฝากกัน ที่สถาบัน DOMUS ACADEMY มีการเปิดสอนในหลากหลายหลักสูตร และคอร์สเรียนที่น่าสนใจ ให้เราได้เลือกตามความสนใจ ซึ่งถ้าหากใครที่สนใจอยากเรียนต่อต่างประเทศในสถาบัน DOMUS ACADEMY กำลังศึกษาหาข้อมูลหรือเตรียมความพร้อมในการเรียนต่อ แต่ต้องการผู้ช่วยที่คอยแนะแนว ก็สามารถปรึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://dp-education.com/ เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ตรงใจที่สุด

การศึกษาในภาคฤดูร้อนนั้น เป็นสิ่งที่มอบโอกาสที่ดีที่ช่วยให้เราได้พัฒนาทักษะใหม่ๆ เสริมสร้างความรู้ที่ดีตามความสนใจของตัวเราได้มากยิ่งขึ้น หากใครที่มีความสนใจอยากที่จะเรียนในด้านของแฟชั่น การออกแบบและศิลปะ หนึ่งในสถาบันที่มีความโดดเด่นในด้านนี้ก็คือสถาบัน NABA (Nuova Accademia di Belle Arti) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันด้านศิลปะและการออกแบบที่มีชื่อเสียงในอิตาลี เปิดสอนในหลักสูตร Summer Courses ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเรียนรู้และพัฒนาตนเองในช่วงเวลาสั้น ๆ ได้เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ และยังได้สัมผัสกับวัฒนธรรมการศึกษาระดับสากลที่มีคุณภาพ วันนี้เราจึงได้นำ 3 หลักสูตร ที่น่าสนใจ มาฝากกัน NABA จะมีหลักสูตรอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันได้เลย 

3 หลักสูตร Summer Courses ของ NABA

3D Character Design (หลักสูตรการออกแบบตัวละคร 3 มิติ)

มาเริ่มกันที่ หลักสูตรแรกกัน โดยหลักสูตรนี้นั้นจะมีการเรียนการสอนในระดับเบื้องต้น มุ่งเน้นไปในเรื่องการออกแบบตัวละคร 3D ตั้งแต่การสร้างคอนเซ็ปต์ การออกแบบรูปร่างและโครงสร้าง 3D  การทาสีและเท็กซ์เจอร์ จนถึงการทำให้ตัวละครนั้นๆ สามารถเคลื่อนไหวได้จริงในสภาพแวดล้อมดิจิทัล ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่เกม, ภาพยนตร์, อนิเมชัน, จนถึงการสร้างสื่อดิจิทัล จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกของ CGI การสร้างแบบจำลองหลายเหลี่ยม รวมถึงการสร้างรูปร่างมนุษย์และเครื่องจักร มีการสอนในเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ Maya การใช้การถ่ายภาพที่มีการกำหนดรายละเอียดชัดเจน

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร 3D Character Design

• เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างและออกแบบตัวละคร 3D ที่มีความหลากหลาย ทั้งในด้านการใช้สี, รูปร่าง, และการแสดงออกของตัวละคร
• เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจวิธีการใช้ซอฟต์แวร์ที่จำเป็นในกระบวนการสร้างตัวละคร 3D
• เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการทำงานร่วมกับทีมและการสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบที่สามารถใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้

Accessories Design (หลักสูตรการออกแบบเครื่องประดับ)

หลักสูตรต่อมา โดยหลักสูตรนี้นั้นเป็นหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนในระดับกลาง มุ่งเน้นไปในเรื่องของการเรียนเรื่องการค้นพบพื้นฐานของคอลเลกชันแบรนด์เครื่องประดับหรูหรา โดยเฉพาะกระเป๋าและรองเท้าที่ได้มีการผลิตขึ้นในประเทศอิตาลี โดยเราจะได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานที่จำเป็นในการออกแบบเครื่องประดับ เรียนรู้ทักษะสำคัญในการออกแบบเครื่องประดับทั้งในเรื่องการใช้วัสดุต่างๆ การเข้าใจถึงเทคนิคการผลิต การออกแบบที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยงามและการใช้งาน การสร้างคอลเลกชันเครื่องประดับที่สามารถแสดงถึงเอกลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบได้อย่างชัดเจน เรียนรู้วิธีการสื่อสารและนำเสนอแนวคิดการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มความเข้าใจให้กับเราในเรื่องการประสานงานและพัฒนาแบรนด์เครื่องประดับหรูหราของเราให้เติบโตไปได้อีกด้วย 

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร Accessories Design

• เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะการออกแบบเครื่องประดับในเชิงลึก
• เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงกระบวนการต่างๆ ในการสร้างเครื่องประดับที่มีคุณภาพ ทั้งในแง่ของความสวยงามและการใช้งานจริง
• เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประสานงานและพัฒนาแบรนด์เครื่องประดับหรูหราได้อย่างมีคุณภาพ

Concept Art (หลักสูตรคอนเซ็ปต์อาร์ต)

หลักสูตรสุดท้ายโดยหลักสูตรนี้นั้นจะมีการเรียนการสอนในระดับเบื้องต้น มุ่งเน้นไปในเรื่องการเรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์ภาพคอนเซ็ปต์สำหรับภาพยนตร์, เกม, หรือแอนิเมชัน รวมถึงการพัฒนาผลงานจากการสร้างคอนเซ็ปต์สู่การสร้างภาพสมจริงที่จะใช้ในการผลิตจริงในอุตสาหกรรมต่างๆ รู้จักกับโลกของคอนเซ็ปต์อาร์ต พัฒนาไอเดียและแนวคิด เรียนรู้เทคนิคการใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือที่ทันสมัยในการสร้างคอนเซ็ปต์ที่น่าประทับใจ และเรียนรู้การนำเสนอและสื่อสารงานคอนเซ็ปต์ออกมาให้ตรงตามความต้องการ

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร Concept Art

• เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะในการคิดเชิงสร้างสรรค์และพัฒนาแนวคิดต่างๆ สำหรับตัวละคร, สิ่งแวดล้อม, และองค์ประกอบอื่นๆ
• เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงวิธีการสื่อสารงานคอนเซ็ปต์ให้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
• เพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างภาพคอนเซ็ปต์ในหลากหลายสไตล์ที่เหมาะสมกับความต้องการ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากของ NABA ซึ่งนอกจาก 3 หลักสูตร Summer Courses ของสถาบัน NABA แห่งนี้แล้ว ยังมีอีกหลากหลายคอร์สให้เราได้เลือกเรียนตามความชอบอีกมากมาย ซึ่งหากใครที่กำลังศึกษาหาข้อมูล รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียนต่างๆ หรือต้องการที่ปรึกษาในการเตรียมตัวเรียนต่อในสถาบันออกแบบในต่างประเทศ ก็สามารถสอบถามข้อมูลหรือรับคำแนะนำเพิ่มเติมได้ทาง https://dp-education.com/

การเรียนในด้านของศิลปะ แฟชั่น และการออกแบบ ในปัจจุบันนี้ที่เทคโนโลยีกำลังก้าวหน้า ได้รับความสนใจจากหลายคนในการเรียนต่อสาขานี้กันเพิ่มมากยิ่งขึ้น หนึ่งในสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกในด้านนี้คือ Istituto Marangoni ที่มีวิทยาเขตการเรียนอยู่หลากหลายเมืองใหญ่ที่โดดเด่นในเรื่องของศิลปะแฟชั่นทั่วโลก โดยวิทยาเขตแห่งใหม่ที่สถาบัน Istituto Marangoni เปิดนั่นก็คือ วิทยาเขตดูไบ นั่นเอง เพื่อให้ผู้ที่สนใจนั้น ได้เรียนด้านแฟชั่นและการออกแบบในเมืองที่มีความรุ่งเรือง เป็นศูนย์กลางของธุรกิจ และความหรูหราแห่งหนึ่งของโลก วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสถาบันและวิทยาเขตแห่งนี้กันให้มากยิ่งขึ้นผ่านในเรื่องแนะนำ Istituto Marangoni Dubai จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามพร้อมกันเลย 

ทำความรู้จักกับสถาบัน Istituto Marangoni Dubai

Istituto Marangoni Dubai เป็นหนึ่งในวิทยาเขตของสถาบัน Istituto Marangoni ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถาบันที่โดดเด่นในเรื่องของแฟชั่น ศิลปะและการออกแบบ โดยที่ที่นั่นจะเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงความรู้ด้านแฟชั่นการออกแบบในยุโรป และวัฒนธรรมตะวันออกกลางรวมเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งมรดกทางวัฒนธรรมอิตาลี ประเพณีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิทธิพลจากนานาชาติ มีหลักสูตรที่หลากหลาย ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี ไปจนถึงการเรียนในระดับสูงที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ในด้านแฟชั่นดีไซน์ วิทยาเขตตั้งอยู่ในศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศดูไบ ซึ่งเป็นย่านที่มีไลฟ์สไตล์ที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง ผสมผสานประสบการณ์การเรียนรู้ที่สร้างสรรค์เข้ากับความเชี่ยวชาญของอิตาลี เพื่อพัฒนาทักษะความสามารถในท้องถิ่น กำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมแฟชั่น การออกแบบ และการสร้างสรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการพัฒนาในท้องถิ่น และความหลากหลายทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังช่วยเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่การเป็นนักออกแบบมืออาชีพในวงการแฟชั่นและการออกแบบระดับโลก

สาขาวิชาที่เปิดสอนในสถาบัน Istituto Marangoni

สถาบัน Istituto Marangoni นั้นมีหลากหลายหลักสูตรที่เปิดสอน และครอบคลุมทั้งในเรื่องการออกแบบ แฟชั่น ธุรกิจแฟชั่น การจัดแต่งทรงแฟชั่น  รวมถึงน้ำหอม และเครื่องสำอาง โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว มีหลักสูตรดังต่อไปนี้

1. การออกแบบแฟชั่น (Fashion Design) เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนในเรื่องของการออกแบบแฟชั่นอย่างมืออาชีพ ตรงต่อความต้องการของอุตสาหกรรมแฟชั่น และมีความสมดุลที่ดี เหมาะสมกันระหว่างฟังก์ชันในการใช้งานและความสวยงามในการออกแบบ ตัวอย่างหลักสูตรสาขาการออกแบบแฟชั่น

• Fashion Design & Accessories (แฟชั่นดีไซน์และเครื่องประดับ)
• Fashion Design Intensive (หลักสูตรเร่งรัดในด้านการออกแบบแฟชั่น)
• CLO3D Fashion
• Fashion Design (การออกแบบแฟชั่น)
• Sustainable Fashion & Circularity (แฟชั่นและวงจรที่ยั่งยืน)
• Jewelry Design (การออกแบบจิวเวลรี่)
• Virtual Fashion (แฟชั่นเสมือนจริง)

2. การจัดสไตล์ของแฟชั่น (Fashion Styling) เป็นหลักสูตรที่มีการเรียนในเรื่องของการจัดสไตล์แฟชั่นและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ตรงจุด ตัวอย่างหลักสูตรของสาขาการจัดสไตล์ของแฟชั่น 

• Fashion Communication & Image (การสื่อสารและภาพลักษณ์ของแฟชั่น)
• Fashion Styling & Multimedia Intensive (หลักสูตรเร่งรัดการออกแบบแฟชั่นและมัลติมีเดีย)
• Fashion Image & Styling (ภาพลักษณ์แฟชั่นและสไตล์)
• Food Styling (การจัดแต่งอาหาร)

3. ธุรกิจแฟชั่น (Fashion Business) เป็นหลักสูตรที่มีการเรียนในเรื่องของการทำธุรกิจแฟชั่น การพัฒนาอุตสาหกรรม การติดตาม รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับแฟชั่นและธุรกิจ และติดตามเทรนด์แฟชั่นของตลาดที่ได้รับความนิยม ตัวอย่างหลักสูตรของสาขาธุรกิจแฟชั่น

• Fashion Management, Digital Communication and Media (การบริหารจัดการแฟชั่น – การสื่อสารและสื่อดิจิทัล)
• Fashion & Luxury Brand Management (การจัดการแบรนด์แฟชั่นและสินค้าหรูหรา)
• Fashion Trend Forecasting (การคาดการณ์แนวโน้มแฟชั่น)
• Design Thinking (การคิดเชิงออกแบบ)
• Strategic Licensing (การออกใบอนุญาตเชิงกลยุทธ์)
• Brand Identity (เอกลักษณ์ของแบรนด์)
• Fashion Entrepreneurship (ผู้ประกอบการด้านแฟชั่น)
• Fashion Luxury Retail & Visual Merchandising (การค้าปลีกสินค้าแฟชั่นหรูหราและการจัดแสดงสินค้า)
• Fashion e-Commerce & Digital Marketing (อีคอมเมิร์ซแฟชั่นและการตลาดดิจิทัล)
• Fashion Business & Digital Marketing Intensive (หลักสูตรเร่งรัดด้านธุรกิจแฟชั่นและการตลาดดิจิทัล)

  เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลดีๆที่เรานำมาฝากในวันนี้ หากใครที่สนใจอยากศึกษาต่อด้านแฟชั่นที่สถาบัน Istituto Marangoni Dubai ที่นี่จะเปิดทำการในวันที่ 17 เมษายน 2025 นี้ สามารถเข้าไปศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนได้ หรือถ้าหากใครที่วางแผนไว้ว่าจะศึกษาต่อ กำลังเตรียมตัว แต่ต้องการที่ปรึกษา และให้คำแนะนำในการเรียนต่อต่างประเทศ ก็สามารถสอบถามข้อมูลหรือ ปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้การเรียนต่อในระดับปริญญาโท ได้รับความสนใจสูงขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดธุรกิจ ซึ่ง Domus Academy เป็นสถาบันที่โดดเด่นในเรื่องของศิลปะ และการออกแบบ ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ที่เป็นศูนย์กลางของเมืองศิลปะอีกด้วย โดย Domus Academy มีหลากหลายคอร์สเรียน ให้เราได้เลือกเรียนตามความสนใจ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีคอร์สไหนน่าสนใจบ้าง เราไปดูพร้อมกันต่อได้เลย 

3 คอร์ส ระดับปริญญาโท จาก DOMUS ACADEMY

คอร์ส Design Leadership & Strategy

Design Leadership & Strategy มีการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับธุรกิจหรือ Business ของการออกแบบ โดยมีเนื้อหาในการเรียนการสอนในเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้

• การสร้างแผนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจออกแบบ โดยใช้แนวทางที่หลากหลายผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างสร้างสรรค์โดยต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และรูปแบบธุรกิจของบริษัท 
• ทำความเข้าใจในเรื่องของทักษะการเป็นผู้ประกอบการว่ามีความสำคัญอย่างไรเพื่อนำพาบริษัทก้าวไปข้างหน้า วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และกระบวนการนวัตกรรมของการออกแบบ โดยมีการมุ่งเน้นไปในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและการออกแบบ
• เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบธุรกิจการออกแบบ เพื่อสามารถพัฒนารูปแบบธุรกิจนวัตกรรมด้วยแนวทางการออกแบบและสามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมต่างๆได้เป็นอย่างดี
• เรียนรู้กระบวนการออกแบบและระเบียบวิธีการต่างๆ รวมไปถึงเครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบ 
• เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของการออกแบบตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเน้นช่วงเวลาที่สำคัญและแนวคิดต่างๆ และศึกษาความสัมพันธ์ที่สอดคล้องกับการสร้างสรรค์ ภูมิภาค ประเพณี และงานฝีมือ
• เรียนรู้เกี่ยวกับการสื่อสารความหมายของผลงาน การสร้างแนวคิดแบรนด์ และการวางกลยุทธ์สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นและมีความเป็นเอกลักษณ์
• เรียนรู้การนำเทคโนโลยี สื่อดิจิทัลและความคิดสร้างสรรค์มาสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คอร์ส Design Innovation

Design Innovation นี้มีการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบนวัตกรรม โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ 

• เรียนรู้และทำความเข้าใจหลักการและความสำคัญของการออกแบบ เพื่อเสริมสร้างมุมมองในการออกแบบและการแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี 
• เรียนรู้การออกแบบ UI ระดับสูงสำหรับแอปพลิเคชันเว็บไซต์และมือถือ การออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้เชิงโต้ตอบ ให้มีความสวยงามและมีประโยชน์สูงสุด
• เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากการพิมพ์ 3D และการสร้างต้นแบบ สำรวจวัสดุนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบได้
• เรียนรู้การออกแบบในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านยุคสมัยที่มีการแปรผันไปตั้งแต่ในอดีตจนถึงอนาคต การออกแบบมีบรรทัดฐานดั้งเดิมอย่างไร เพื่อสร้างสรรค์ขอบเขตของการออกแบบได้อย่างเหมาะสม
• เรียนรู้การออกแบบอย่างยั่งยืน การออกแบบสามารถมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูระบบนิเวศ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางสังคม และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมได้
• สำรวจวัสดุนวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
• เรียนรู้การออกแบบที่สามารถสื่อสารความหมาย และสื่อสารอัตลักษณ์ได้ชัดเจน 

Fashion: Design, Art & Technology

Fashion: Design, Art & Technology มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับแฟชั่น การออกแบบ ศิลปะและเทคโนโลยี โดยมีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้ 

• เรียนรู้ทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติในทุกขั้นตอนของการออกแบบ รวมถึงเครื่องมือในการสร้างสรรค์แฟชั่น
• เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการและเทคนิคที่เกี่ยวข้องในการสร้างลวดลายของแฟชั่นทั้งทางกายภาพและดิจิทัล เพื่อเสริมสร้างทักษะและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบันได้ 
• เรียนรู้เกี่ยวกับวัสดุทั้งเนื้อผ้า การสร้างผ้าในวิธีการต่างๆ เพื่อนำมาสร้างสรรค์ชุดสวยงาม
• เรียนรู้ศิลปะ นวัตกรรมการออกแบบ และแฟชั่นที่ผสมผสานกันรวมถึงบริบทต่าง ๆ ทั้งวัฒนธรรม สังคม ประวัติศาสตร์และการเมือง เป็นต้น
• เรียนรู้เทคนิคการวาดภาพ การสเก็ตซ์ภาพ 
• ทำความเข้าใจแนวโน้มและเทรนด์แฟชั่นในยุคสมัยที่แตกต่างกันจนถึงปัจจุบัน 
• เรียนรู้การตีความและการประยุกต์ใช้วัสดุล้ำสมัย รวมถึงผ้าเชิงทางเลือกและผ้าที่มีฐานจากชีวภาพ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับข้อมูลที่เรานำมาฝากในเรื่อง แนะนำ 3 คอร์ส ระดับปริญญาโท จาก DOMUS ACADEMY โดยสถาบัน DOMUS ACADEMY นั้นเป็นสถาบันออกแบบชั้นนำของประเทศอิตาลี และนอกจากนี้ยังมีอีกหลากหลายคอร์สให้ได้เลือกเรียนตามความสนใจอีกมาก หากใครมีความสนใจ แต่กำลังศึกษาหาข้อมูลต้องการคำแนะนำดีๆ หรือต้องการที่ปรึกษาในเรื่องของการเรียนต่ออิตาลี ก็สามารถปรึกษา และ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รับรองได้ข้อมูลแบบไม่ผิดหวังแน่นอน