พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ
“ปิงปอง” พิชญ์ ภูมิสวัสดิ์ นักเรียนทุนอันดับที่สองของคณะ Visual Brand Design ไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของปิงปองกันเลย!
DA Thailand: โปรเจกต์ที่ได้ทำตอนเรียนแล้วชอบที่สุด ?
ปิงปอง: ส่วนตัว จริง ๆ ชอบทุกโปรเจกต์เลยครับ แต่อันที่ชอบที่สุดก็คงเป็นที่ทำกับ Bvlgari ใน Workshop Digital Luxury Communication เป็นวิชาเลือกของสาขา Luxury Brand Management ครับ ตอนนั้น Brief คือให้คิด Communication Strategy เพื่อโปรโมทเครื่องประดับชื่อว่า “Serpenti” (แปลว่า “งู”) ซึ่งเราว่า Workshop นี้กดดันที่สุดจากที่เรียนทั้งหมดเลยครับ ความ competitiveness ในคลาสสูงมาก ยิ่งคนจากแบรนด์เดินทางจากโรมมาให้ Brief ด้วยตัวเองแ ละบอกจะให้รางวัลกับกลุ่มที่ชนะอีก ทุกกลุ่มเลยจัดเต็มมากครับ
กลุ่มผมเสนอ Concept เรื่อง Human Duality คือ เปรียบเปรยงูกับมนุษย์ที่มี 2 ด้านที่แตกต่างกัน เราเปรียบเครื่องประดับว่าเป็นตัวแทนของการเป็นตัวของตัวเองและยอมรับแง่มุมสองขั้วที่แตกต่างกัน เหมือนกับงูที่มีด้านที่สวยงามน่าค้นหา แต่ก็ดุร้ายและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน กลุ่มของพวกเราช่วยกันรีเสิร์ชและออกแบบ Campaign กันละเอียดมาก ๆ ช่วงนั้นนี่กลับถึงบ้านแล้วหลับสนิททุกวันเลยครับ
ในวัน Final Presentation เรามีโอกาสได้ Present ต่อหน้าคนจากแบรนด์ด้วย ตื่นเต้นมากครับ เช้าวันนั้นคือซ้อมพูดกับเพื่อนตุรกีไปหลายรอบมาก เพราะเรารู้ว่าพูดไม่ค่อยเก่ง แต่เราก็อยากมีโอกาสได้ Pitch งานด้วยตัวเอง พอสุดท้าย Bvlgari ก็เลือกกลุ่มเราเป็นกลุ่มที่ชนะครับ และ Program Leader ก็เลือกโปรเจ็กต์นี้ไป Present ในงาน Open House ของโรงเรียนช่วง Milan Design Week ที่ผ่านมาด้วยครับ รู้สึกดีใจมากเลยครับ โปรเจกต์นี้จึงเป็นโปรเจกต์หนึ่งที่ชอบมากๆครับ
ลูกค้าได้รับก็ชอบมากครับ เลยรู้สึกประทับใจกับบริการของร้านนี้ครับ
DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุด ?
ปิงปอง: น่าจะเป็นการประกวด Design Marathon ครับ คือการแข่งขันออกแบบอดหลับอดนอน 2 วัน (เหนื่อยมาก!) ตอนนั้นโรงเรียน Collaborate กับแบรนด์ Reebok โดยให้นักเรียนที่ร่วมประกวดออกแบบ Sneaker สำหรับปี 2030 พร้อมทำ Prototype ขนาดเท่าจริงส่งด้วย และคนจากแบรนด์ซึ่งเดินทางมาจาก USA จะเลือกทีมผู้ชนะเพื่อให้เงินรางวัล และนำ Design ที่เราคิดไปผลิตเป็นรองเท้าจริงๆ เพื่อจัดแสดงใน Design Week ครับ
จุดที่ท้าทายมากเลยคือการที่โรงเรียนจัดทีมให้เรา โดยที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กลับต้องมาทำงานด้วยกันให้เสร็จภายใน 2 วัน ตอนนั้นคิดเลยว่า เราต้องใจเย็น ๆ มีสตินะ ต้องแบ่งงานดี ๆ เพราะเวลามีจำกัดมาก โชคดีที่เพื่อน 4 คนที่ทำงานด้วยกันน่ารักมาก ๆ ครับ ตอนนั้น Concept ที่เสนอไปคือการนำของเก่ามาทำใหม่ครับ เรานำรองเท้ารุ่น Vintage ของ Reebok ที่เคยปรากฎในหนังเรื่อง Aliensในปี 1986 มา Re-Design ใหม่ด้วยรูปทรง วัสดุ และเทคโนโลยีที่ Futuristic ขึ้นเพื่อไปเหยียบบนดาวอังคารครับ เพราะหนึ่งในรีเสิร์ชที่พวกเราอ่านกันคือ มนุษย์มีแนวโน้มที่จะขึ้นไปเหยียบบนดาวอังคารได้ในปี 2030 เราเลยหยิบ Scenario นั้นมาใช้เป็น Concept ครับ
ท้ายที่สุดทีมของพวกเราได้รางวัลที่ 1 ครับ ดีใจมาก ๆ ตอนประกาศผลนี่วิ่งไปกอดกับเพื่อนเลย (ดีใจ ได้เงินไปเที่ยว 555) ในช่วงเมษาที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้ไปเห็น Model รองเท้าจัดแสดงที่ Rho Fiera รู้สึกดีมากครับ แบบครั้งหนึ่งในชีวิต งานเราได้เป็นส่วนหนึ่งของงาน Milan Design Week เลยนะ ต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทีมและ Advisor ทุกคนที่ Support การประกวดนี้มาก ๆ เลยครับ
DA Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ที่สถาบัน เป็นยังไงบ้าง ?
ปิงปอง: สิ่งหนึ่งที่เราชอบในการเรียนที่ Domus คือสังคมแบบ No Boundaries ในทุก ๆ เรื่องครับ ทั้งเพศ อายุ และเชื้อชาติ ระบบการเรียนแบบ Workshop-Based ทำให้เราถูกเวียนไปทำงานกลุ่มกับเพื่อนต่างชาติในช่วงวัยที่แตกต่างกันอยู่ตลอด ทำให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ ตั้งแต่เด็กฝรั่งเศสอายุแค่ 21 ปีแต่ Pitch งานเก่งมาก ไปจนถึงคนอายุ 35 ที่เพิ่งมาเริ่มต้นเรียน Design เพราะความชอบล้วน ๆ ยิ่งพอเราเลือก Workshop ข้ามสาขาไป 2 ตัว เราก็ได้เจอสังคมเพื่อนที่หลากหลายมากขึ้น บางทีเราก็ไป Hiking หรือเช่ารถไปเที่ยวนอกเมืองกับเพื่อนฝั่ง Design หรือไม่ก็ไป Home Party หรือกิน Aperitivo กับเพื่อน สาขา Fashion ดังนั้น ภายใน 1 ปีเราจึงได้แลกเปลี่ยน Culture ที่หลากหลายมาก และได้ฝึกทักษะของความเป็น Team Player ที่ดีด้วยครับ
พูดถึงคุณครู เราคงต้องบอกเลยว่าเราโชคดีมากที่มี Program Leader ที่น่ารักมาก ๆ อย่าง Elisa Chiodo (ศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุสอะคาเดมีประจำประเทศไทยเคยพา อาจารย์เอลิซ่า มาพูดบรรยายพิเศษที่ประเทศไทยในงาน Bangkok Design Week 2018) ที่คอยช่วยดูแลเรา เป็นครูที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องจริง ๆ ทั้งเรื่องเรียน หรือเรื่องอื่น ๆ เช่น แนะนำสถานที่ที่น่าสนใจ, เรื่อง Portfolio สมัครฝึกงาน, เรียนภาษาอิตาลี, เที่ยวนอกเมือง หรือแม้แต่เรื่องย้อมสีผม (ทุกคนจะจำเค้าได้เพราะผมเขาส้มมากครับ 555) เป็นคนที่ Support นักเรียนในทุก ๆ เรื่องจริง ๆ
DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?
ปิงปอง: จริงๆ Domus เป็นแค่ตึกเรียนเล็ก ๆ ใน Campus เองครับ Facility ส่วนใหญ่เราจะแชร์ร่วมกับ NABA เช่น ห้องสมุด โรงอาหาร Shop ทำโมเดล ร้านเครื่องเขียน สตูดิโอถ่ายภาพ ฯลฯ ซึ่งเราก็ได้ไปบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในตึกเรียนทำงานกลุ่มกับเพื่อนมากกว่า ที่น่าจะชอบที่สุด คงเป็นร้าน Print เอกสารของมหาลัยครับ เพราะเป็นร้านช่วยชีวิตตอนที่เรียนดีมาก อยากเข้าเล่มแบบไหนที่ร้านมีเครื่องทำให้หมดเลยครับ คุณภาพสีก็ดีมาก ตอนนั้นต้องทำ Booklet ส่ง Final ของวิชา Fashion Brand Management ร้านเค้าจะปิดแล้วแต่เราไปอ้อนวอนเค้าว่าช่วย Print และเข้าเล่มให้หน่อยได้มั้ย เพราะต้องส่งพรุ่งนี้เช้าแล้ว เค้าก็ยอมทำให้เราคนเดียวครับ แล้วออกมาดูดีทีเดียว พอลูกค้าได้รับก็ชอบมากครับ เลยรู้สึกประทับใจกับบริการของร้านนี้ครับ