SCHOOL

April 1, 2021

“ณัฏฐ์” เพ็ญชาติ

“ณัฏฐ์” เพ็ญชาติ

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Interaction Design
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : Designer ที่ Fintech Startup แห่งนึงในเบอร์ลิน

Alumni – Domus Academy
“ณัฏฐ์” เพ็ญชาติ | Master in Interaction Design

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

คอลัมน์นี้คุณจะได้พบกับบทสัมภาษณ์สุด Exclusive จาก “ณัฏฐ์” ณัฏฐ์ เพ็ญชาติ ดีกรีศิษย์เก่านักเรียนทุนอันดับที่ 1! คณะ Master in Interaction Design เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของณัฏฐ์กันได้เลย

DA Thailand: โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด ?

ณัฏฐ์: ชอบหลายอันนะครับ เลือกยากอยู่ แต่ละอันก็เรียนรู้ต่างกันไป งานหนึ่งได้ออกแบบ App ใน Park Hyatt ได้พูดคุยกับ GM ของโรมแรมโดยตรงเลย อีกงานหนึ่งคิดวิธีโปรโมต รถ Alfa Romeo ก็ได้ลองทำ Tangible Interaction งานที่ได้ทำรวมกับนักเรียน Master in Product Design ก็ได้ความรู้ไปอีกแบบครับ

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียน ประทับใจที่สุด ?

ณัฏฐ์: การได้เรียนรู้วิธีการคิดจากเพื่อนๆ จากหลากหลาย Culture

DA Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงเรียนจบ ?

ณัฏฐ์: ดีมากครับ ผมจบมาประมาณ 6-7 ปี ตอนนี้ยังได้ทำงานรวมกันอยู่เลยครับ ปีก่อนผมก็พึ่งกลับไปเยี่ยมอาจารย์ที่ Milan

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

ณัฏฐ์: คงเป็นร้านอาหารรอบ ๆ มั้งครับ ฮา ๆ

DA Thailand: ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไร หลังจบการศึกษา ?

ณัฏฐ์: ตอนนั้นไม่มีโปรแกรมฝึกงานของโรงเรียนครับ หลังจบผมไปฝึกกับ Fabrica เป็น Research Lab ของ Benetton

DA Thailand: ปัจจุบันทำงานอะไรที่ไทยเเละเราเอาความรู้ที่เรียนจากโดมุสมาประยุกต์ใช้ ได้อย่างไรบ้าง ?

ณัฏฐ์: ตอนนี้เป็นเจ้าของ UX Design Agency ชื่อ Ahancer (https://ahancer.com) ครับ การได้ลองผิดลองถูกสมัยเรียน Domus Academy และ เพื่อน ๆ ที่ได้เจอกัน ก็มีส่วนช่วยให้ผมมาอยู่จุดนี้เยอะครับ

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

“ตะวัน” ทานตะวัน

“ตะวัน” ทานตะวัน

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Visual Brand Design
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : Designer ที่ Fintech Startup แห่งนึงในเบอร์ลิน

Alumni – Domus Academy
“ตะวัน” ทานตะวัน | Master in Visual Brand Design

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

บทความนี้พบกับสาว “ตะวัน” ทานตะวัน เอี่ยมชื่น ดีกรีนักเรียนทุนอันดับที่ 1 คณะ Master in Visual Brand Design ซึ่งปัจจุบัน ตะวันทำงานเป็นดีไซน์เนอร์อยู่ที่ Fintech Startup แห่งหนึ่งในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของเธอพร้อมกันได้เลย!

DA Thailand: โปรเจกต์ที่ได้ทำตอนเรียนแล้วรู้สึกชอบที่สุด ?

ตะวัน : โปรเจกต์ที่เรียนแล้วชอบที่สุดคือ วิชา Entrepuernuer ที่เรียนรวมกับคลาส Business Design ค่ะ ต้องทำทั้ง Business Plan การคิด Cost หาตลาด รวมไปถึงการทำ Branding และ Communication ของธุรกิจด้วย ตอนนั้นทำโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับโรงเรียนสอนเเละพัฒนาเด็ก Autistic ทำรีเสิร์ชเยอะมากให้มันครบถ้วนแบบที่เกิดขึ้นได้จริง ไม่ขาดทุน และ Brand Communictaion ก็ต้องดีด้วย ทำไปจนถึง Interior เลย เพราะอยากให้มันครบสมบูรณ์เเบบจริง ๆ เลยรู้สึกว่าเป็นโปรเจกต์ที่ดีที่สุดที่เคยทำตอนเรียนเลยค่ะ

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุด ?

ตะวัน : ปกติที่โดมุสทุกปีจะมีการแข่งกัน Design Marathon ตามโจทย์ คือ ต้องแข่งออกแบบโปรเจกต์พิเศษของ 2 โรงเรียน คือ NABA กับ Domus ภายในเวลาแค่สองวัน ในกลุ่มมี 5 คนค่ะ ประชุม Concept งาน ตีกันไปกันมาในกลุ่ม พยายามหาทางที่ง่ายและเร็วที่สุดไปพรีเซนต์ให้ทันเวลา ทุกคนจะมาจากหลากหลายสาขา เช่น Interior, Product เเละ Interacation Design ทำ Presentation กันถึงเช้า แทบไม่ได้นอนเลย ผลปรากฏว่าเราได้ที่ 2 ดีใจมาก เลยเป็นความทรงจำที่ดีค่ะ

DA Thailand: สังคม เพื่อน ครู ตั้งแต่เรียนจนถึงเรียนจบ ?

ตะวัน : โดมุสเป็นมหาลัยที่ International มาก ๆ มีเพื่อนหลากหลายชาติ พูดกันหลายภาษาหลายสำเนียง แต่เพื่อนทุกคนน่ารักและพร้อมที่จะเปิดกว้างค่ะ อาจารย์ที่สอนมีทั้งคนที่เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง ดีไซนเนอร์จากบริษัทดัง ๆ ตัวแทนบริษัทใหญ่ ๆ ส่วนตัวคิดว่าโดมุสเป็นพื้นที่ที่มี connection และเพื่อนที่ดีที่ถึงแม้ว่าจะเรียนจบไปแล้วทุกคนแยกย้ายไปทั่วโลกก็ยังติดต่อกันอยู่ตลอด

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

ตะวัน : ส่วนตัวไม่ค่อยได้ใช้ Facility ของมหาลัยมากเพราะที่เด่น ๆ คือ ห้อง LAB แต่สาขาที่ตะวันเรียน Master in Visual Brand Design ไม่ได้ใช้เท่าไหร่ แต่ทางมหาลัยก็มีห้องประชุม โรงอาหาร ห้องสมุด มีห้องให้ทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ ถือว่ามีทุกอย่างครบครันค่ะ

DA Thailand: ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบจากที่โดมุส ?

ตะวัน: ตอนช่วงหาที่ฝึกงานก่อนเรียนจบ ตะวันไปเสนอ Portfolio ให้ Creative Director ของบริษัท Landor เป็น Brand Consulting and Design Agency ซึ่งเค้าสนใจเลยได้ฝึกงานค่ะ หลังจากทำงานกับ Landor ครึ่งปีจนจบสัญญา เราก็พยายามหางานทำต่อเพราะยังอยากอยู่อิตาลีต่อ ตอนนั้นมีพี่แนะนำให้ยื่นสมัครตำเเหน่ง Visual Designer ของ Frog Design เลยได้ทำอีกเกือบปีก่อนย้ายไปเบอร์ลินค่ะ ตอนทำงานที่ Frog รู้สึกตื่นเต้นทุกวัน มีอะไรใหม่ ๆ ตลอด เพื่อนร่วมงานมีหลายชาติมาก ทุกคนเก่งและน่ารักมาก ๆ ค่ะเป็นช่วงชีวิตที่ชอบมาก ๆ ช่วงนึงเลย

DA Thailand: ปัจจุบันทำงานอะไรเเละเราเอาความรู้ที่เรียนจากโดมุสมาประยุกต์ใช้ ได้อย่างไรบ้าง ?

ตะวัน: ปัจจุบันทำงานเป็น Designer อยู่ที่ Fintech Startup แห่งนึงในเบอร์ลินค่ะ เราเข้ามาทำงานใน Brand Team ที่เป็น Base ของงานสื่อสารทั้งหมดของบริษัท ทั้งงาน Offline แคมเปญโฆษณา งาน Online Communication ไปจนถึง UX/UI ซึ่ง บางเรื่องเป็นสิ่งที่เราได้เริ่มต้นทำความรู้จักมันตอนที่เรียนโดมุส เช่น Campaign Strategy การทำ User Fow, Hypothesis พอได้ทำบ่อย ๆ มันเลยทำให้มั่นใจในงานของตัวเองมากขึ้นค่ะ

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

“ต้อง” ภาณุพงศ์

“ต้อง” ภาณุพงศ์

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Interior Design
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : เSenior Designer ที่ Ong&Ong Design บริษัทสถาปนิกของสิงคโปร์

Alumni – Domus Academy
“ต้อง” ภาณุพงศ์ | Master in Interior & Living Design

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

“ต้อง” ภานุพงศ์ ยังสว่าง ดีกรีศิษย์เก่านักเรียนทุนจากคณะ Master in ​Interior & Living Design ที่เคยไปศึกษาต่อสถาบันโดมุส เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของต้องกันได้เลย!

DA Thailand: โปรเจกต์ที่ได้ทำตอนเรียนแล้วชอบที่สุด ?

ต้อง: ต้องชอบผลงานโปรเจกต์ที่ 3 ชื่อ Experience Design : The Space In Between โครงการออกแบบพื้นที่ใช้สอยในส่วนโถงต้อนรับและส่วนประชุม ให้กับบริษัท Siemens Italia สาขาใหญ่ในมิลานโดยมีโจทย์ที่ต้องเเก้ คือ พื้นที่เดิมในปัจจุบันมีปัญหากับการเข้าออกของบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อกับทางบริษัท ซึ่งในอนาคตทางบริษัทมีโครงการที่จะย้ายสำนักงานไปยังอาคารใหม่ในพื้นที่ใกล้เคียง จึงอยากให้โปรเจกต์งานกลุ่มนี้ช่วยระดมความคิดเพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ Siemens สาขามิลานแห่งนี้ “Collect the senses” จึงนำมาใช้ในเรื่องของการรับรู้ทางพื้นที่และความรู้สึกถึงบรรยากาศที่ดึงให้ผู้คนเข้ามาใช้บริการได้รู้จัก Siemens มากขึ้น แต่ยังคงเก็บรักษาระบบความปลอดภัยระหว่างผู้ใช้บริการและพนักงานในบริษัทตามลำดับการใช้งานขององค์กร

โปรเจกต์นี้เราไม่ได้ชอบเฉพาะที่ได้จับงานออกแบบภายในแต่เพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากเป็นโปรเจกต์ส่งท้าย ที่นักเรียน Master In Interior & Living Design ปี 2015 จะได้ทำงานร่วมกันมากที่สุดก่อนที่จะแยกย้ายไปเลือกทำโปรเจกต์เวิร์คช็อป กับนักเรียนสาขาอื่น ๆ ต่อไปครับ

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุด ?

ต้อง: นักเรียนสถาบันโดมุสจะมาจากต่างชาติ ต่างภาษา และต่างวิธีในการทำงาน เราได้มีการแลกเปลี่ยนแนวความคิดกันเพื่อมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน สิ่งนี้คือการเปิดโลกทัศน์ที่ดีมากอย่างหนึ่ง นอกเหนือจากการมองว่าเราจะได้อะไรจากการเรียนที่สถาบันแห่งนี้ “มิลาน เป็นเมืองแห่งการออกแบบ ทุกอย่างมีปรัชญาอยู่ในตัวเอง ผู้คนให้ความสำคัญกับการออกแบบ ดังนั้นภาษาในงานออกแบบของอิตาลีนั้นจึงมีลักษณะที่ชัดเจน จัดจ้าน ทั้งรูปลักษณะ และสีสัน แม้กระทั่งงานแฟชั่นเองก็ตาม”

DA Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงเรียนจบเป็นอย่างไร ?

ต้อง: พวกผมเเละเพื่อนๆได้เป็นนักเรียนรุ่นสุดท้ายของอาจารย์ผู้สอนประจำสาขาวิชาออกแบบภายใน ฟรานเชสก้า วาจิว (Francesca Vagiu) เรารู้สึกได้ถึงอาจารย์ผู้สอนทุกท่านนั้นที่มีความผูกพันกับเรียนในทุก ๆ รุ่น โดยเฉพาะนักเรียนไทยที่มาเรียนกับอาจารย์ผู้สอน ท่านได้ชื่นชมและพูดถึงในแง่ดีเสมอมา ความประทับใจของนักเรียนที่มาใหม่ จึงรู้สึกไม่เกร็งมากนัก เมื่อได้มาศึกษาต่อต่างประเทศ เพราะทางสถาบันและผู้สอนก็ได้ช่วยเราในการเลือกแผนการศึกษาในโปรเจกต์ทั้ง 4 เวิร์คช็อป ที่จะดูจากความสามารถของตัวเราตั้งแต่ก่อนเปิดภาคเรียน

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

ต้อง: สตูดิโอเเละห้องเเล็ปของสถาบันเพราะถือว่าได้มาตรฐานในการทำงานมาก สถาบันคำนึงถึงความปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือในการทำงานตลอด รวมไปถึงการช่วยเราดูว่าควรใช้เครื่องมือประเภทใดให้ถูกต้อง การลงมือทำงานจริง ซึ่งจะช่วยให้เราทราบ Process หรือขบวนการในการทำงานจริง ว่าเราความวางแผนอย่างไรตั้งแต่เริ่มต้นโปรเจกต์ทำงานออกแบบ

DA Thailand: ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ หรือ ช่วง Professional Experience ที่ต้องฝึกงาน 2 เดือน ?

ต้อง: ต้องได้ไปฝึกงานที่ DWA Studio ของ 2 นักออกแบบ เฟดเดอริค เด วอชเตอร์ (Frederik De Wachter) และ อัลเเบโต้ อาเตซานี่ (Alberto Artesani) ซึ่งได้รับโอกาสร่วมงานกับบริษัทชื่อดังต่าง ๆ ในการออกแบบ Milan Design Week ปี 2017 อาทิ Wallpaper Birkenstock และ Atelier Swarovski ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในการทำงานระดับสากลและได้ร่วมกันสร้างผลงานออกเเบบให้เกิดขึ้นจริงและเผยแพร่สู่สาธรณะชนต่อไป

นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์พิเศษ ของการร่วมมือกันของ 2 สตูดิโอ ชื่อดัง DWA และ Urquiola ในการออกแบบห้องพักบนเรือสำราญระดับโลก Tui Cruise ด้วยเอกลักษณ์งานออกแบบพิเศษจากทั้ง 2 สตูดิโอ สู่ผลงานจริงที่นำพานักเดินทางจากทุกมุมโลกมาใช้บริการเดินทางข้ามทวีป

DA Thailand: ปัจจุบันทำงานตำเเหน่งอะไรเเละทำที่ไหน ?

ต้อง: ปัจจุบันทำงานตำแหน่ง Senior Designer ที่บริษัท Ong&Ong Design บริษัทสถาปนิกของสิงคโปร์ครับ

นอกจากนี้ผมยังมีธุรกิจเล็ก ๆ บาร์ลับย่านสุขุมวิท ชื่อว่า Copper Bar อยู่ที่โครงการ Raquet Club ถนนสุขุมวิทครับ ใครต้องการรู้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่
https://www.facebook.com/copperbarbangkok/

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

“นิป” ณัฐธัญ

“นิป” ณัฐธัญ

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Interior Design
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : Architetto ที่ Patricia Urquiola

Alumni – Domus Academy
“นิป” ณัฐธัญ | Master in Interior & Living Design

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

“นิป” ณัฐธัญ อุทัยเสน ดีกรีนักเรียนทุนอันดับที่ 3! หลักสูตรปริญญาโท จากคณะ Master in Interior & Living Design จะมาเล่าประสบการณ์สมัยเรียนโดมุสให้ใครที่กำลังสนใจจะไปศึกษาต่อ เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของเค้าพร้อม ๆ กันได้เลย!

DA Thailand: โปรเจกต์ที่ได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด ?

นิป: จริง ๆ นิปชอบเกือบทุกโปรเจกต์เลยครับ แต่ถ้าถามว่าชอบตัวไหนมากที่สุดก็น่าจะเป็นเวิร์คช็อปที่ได้ทำงานกับ Kartell ครับ ทางลูกค้าต้องการ Redesign Flagship Store ที่มิลาน เพื่อนำไปใช้ เป็นต้นแบบสำหรับ Kartell Store ทั่วโลก โดยทาง CEO คนปัจจุบัน Claudio Luti เป็นคน Brief และตัดสินด้วยตัวเอง

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียน ประทับใจที่สุด ?

นิป: ในปีที่ผมเรียนมีโครงการประกวดแบบเยอะมากครับ หนึ่งในงานประกวดที่ผมประทับใจที่สุด คือ
งาน Andiamo a Casa – 999 Domande เป็นงานประกวดแบบ Installation Interactive Art เเละใช้ชื้อโปรเจกต์ว่า “Collective Thinking” เพื่อทำให้คนสำนึกถึงการแบ่งปันเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน งานประกวดของผมได้รางวัลชนะเลิศ เราจึงได้จัดแสดงงานจริงที่ Triennale Di Milano ซึ่งเป็น Museum สำคัญในมิลาน

ลองชมบรรยากาศในวันงานจริงดูได้จาก official video ลิ้งค์นี้ครับ : https://www.facebook.com/DomusAcademyOfficial/videos/10155646502117701/

DA Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงเรียนจบเป็นอย่างไร ?

นิป: สังคมดีมาก ๆ ครับ ถือเป็น Connection ที่ดีมาก ๆ ปัจจุบันทั้งเพื่อนๆและครูกลายมาเป็นเพื่อนรวมงานหมดแล้วครับ ผม เพื่อน และอาจารย์ ยังทำงานด้วยกันอยู่หลาย Project ข้อดีมาก ๆ ข้อนึงคือ เราได้ทำงานที่ Location อยู่ตามประเทศต่าง ๆ นอกจากเรื่องงานแล้ว เรายังมีบ้านของเพื่อนๆที่สามารถไปพักได้อีกหลายประเทศทั่วโลก

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

นิป: Design Lap เป็น Facility ที่ผมชอบที่สุดแล้วครับ หากว่าเรามีปัญหาในการทำ Model ทาง Design Lap สามารถให้คำปรึกษาละช่วยแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี อุปกรณ์ เครื่องมือ รวมไปถึง Machine ต่าง ๆ มีครบถ้วน เรียกได้ว่าเดินเข้าไปตัวเปล่าก็สามารถทำงานเสร็จได้

DA Thailand: ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรของช่วง Professional Experience ที่ต้องฝึกงาน 2 เดือน ?

นิป: ผมได้มีโอกาสทำงานกับ Patricia Urquiola ตั้งแต่ผมยังเรียนอยู่และหลังจากจบการศึกษาได้เข้าทำงานต่อในตำแหน่ง Architetto เพื่อนรวมงานทุกคนน่ารักมากครับ เช่น ทุกคนพยายามสอนภาษาอิตาเลียน (อย่างใจเย็น ฮ่า ๆ) และ Culture ของออฟฟิศเราคือ วันจันทร์-วันพฤหัสบดี ทุกคนจะทำอาหารมากินด้วยกัน เราจะได้ชิมอาหารแปลก ๆ จากประเทศต่าง ๆ แทบทุกวัน เพราะทุกคนจะแข่งกันทำอาหารของประเทศตัวเองมาอวดนั่นเอง ส่วนวันศุกร์เราจะออกไปกินข้าวข้างนอกออฟฟิศพร้อมกันทุกอาทิตย์

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

“มุก” มนิษา

“มุก” มนิษา

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Business Design
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : บริหารแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงของตัวเองชื่อ Caramel Studio

Alumni – Domus Academy
“มุก” มนิษา | Master in Business Design

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

คอลัมน์นี้คุณจะได้รู้จักกับสาว “มุก” มนิษา ศักดิยากร ศิษย์เก่าคณะ Master in Business Design เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของมุกกันได้เลย!

DA Thailand: โปรเจกต์ที่ได้ทำตอนเรียนแล้วรู้สึกชอบที่สุด ?

มุก: โปรเจกต์ที่ชอบที่สุด เป็น workshop ทำกับ Armani Hotel Milano โจทย์คือให้สร้าง customer experience ใหม่ให้กับโรงแรม ซึ่งทุกคนในกลุ่มมากันคนละสายงาน ทำเรื่อง human personality เป็นเรื่องใหม่ที่เราไม่เคยแตะ สนุกดี และด้วยสาขา Business Design งานมีเสนอแค่ใน presentation slide เท่านั้น ทุกคนจะงัดฝีมือในการทำ Keynote ออกมา จำได้ว่าโปรเจกต์นี้คือใช้ทุก skills ตั้งแต่ research, stop motion vdo ไปถึงวาดภาพประกอบ ก็เลยเป็นโปรเจกต์ที่ชอบที่สุดค่ะ

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุด ?

มุก: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ดีที่สุด คือการได้เจอคนหลากหลายแบบมารวมตัวกัน ทั้งอายุ วัฒนธรรม และสายอาชีพ นานาชาติมาก ๆ โชคดีที่เจอเพื่อนร่วมคลาสหลายคนที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน กล้าคิดกล้าพูด และขยัน ช่วยกันดึงบรรยากาศในห้องให้สนุกและกระตุ้นให้เราคิดเยอะ ๆ ได้พัฒนา Social Skills แบบก้าวกระโดด ที่สำคัญคือการได้ทำงานแบบ Teamwork มันทำให้เราได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ได้ท้าทายมากกว่าการนั่งเขียน Paper หรือท่องหนังสือแบบการเรียนทั่วไป

DA Thailand: สังคม เพื่อน ครู ตั้งแต่เรียนจนถึงเรียนจบเป็นอย่างไร ?

มุก: นอกจากการเรียนแล้ว ประทับใจ ผู้คนและวัฒนธรรมของอิตาลีมาก บ้านเมืองและวิถีชีวิตเค้ามีเสน่ห์ สบาย ๆ เป็นกันเอง เราไม่รู้สึกว่าต้องปรับตัวอะไรมาก มิลานเป็น Hub ในการเดินทาง เลยมีโอกาสได้ไปเที่ยวนอกเมืองเยอะเพราะสะดวก อีกอย่างที่รู้สึกโชคดีว่าได้ตามเก็บ Exhibition หลายอัน ถ้าให้บินมาดูจากไทยคงไม่มีโอกาส เช่น Fuorisalone หรือ Venice Biennale อีกอันนึงที่ชอบมากคือ Music Week ที่มีคนเล่นดนตรีตาม Public Space ต่าง ๆ เดินดูได้ทั้งเมือง น่ารักดี

ส่วนสังคมเพื่อนที่สนิทกันก็จะเป็นคนต่างชาติต่างภาษา เสาร์อาทิตย์ก็จะเกาะกันหาอะไรทำ ช่วงแรกฟิตชวนกันไปเรียนภาษาอิตาลี หลัง ๆ เปลี่ยนเป็นเที่ยวแทน ทุกวันนี้ยังคุยกัน เป็นหนึ่งในแก้งค์เพื่อนสนิทไปเลย

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

มุก: Facility ของ Domus เรียบง่ายค่ะ ห้อง Share กันกับทุกสาขา หมุนเวียนไปตามตารางเรียน ส่วนใหญ่มุกจะอยู่ในห้อง Common Room ใหญ่ ๆ ที่ไว้ให้นั่งทำงานกลุ่ม และที่ใช้บริการบ่อยมากคือตู้กดขนม (Vending Machine) ที่มี ขนมปัง กับ Hot Chocolate เยียวยาจิตใจในยามที่ทำงานดึกดื่น ตอนที่เรียนอยู่เป็นช่วงที่มีฟุตบอลโลกพอดี ห้องไหนที่คนนั่งทำงานกันเยอะ ๆ ก็เปิดคอมฉายโปรเจคเตอร์ดู Live กันเลยทีเดียว เฮฮามาก

DA Thailand: ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลัง ตอนที่เรียนที่โดมุส ?

มุก: หลักสูตรที่เรียนตอนปี 2014 จะได้ฝึกงานระหว่างเทอมก่อนที่จะเริ่มทำ Final Project ซึ่งโรงเรียนจะมีคอนเน็กชั่นช่วยหาที่ฝึกงานให้ มุกเคยเรียนและทำงานสายแฟชั่นมาก่อน เลยไปฝึกที่ Fashionbi เป็นบริษัทเล็ก ๆ ทำ Data & Insights Provider ให้กับกลุ่ม Fashion & Luxury Brands งานส่วนใหญ่ที่ทำจะเป็นการ Update ข่าว และงาน Research ให้กับลูกค้า ร่วมกันเขียนกับทีมเป็น Marketing Reports เอาไป Publish ให้คนทั่วไปอ่าน เป็นประสบการณ์สั้น ๆ ที่ดีค่ะ ได้ลงมือทำงานจริง

DA Thailand: ปัจจุบันทำงานอะไร ?

มุก: ปัจจุบันทำแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงของตัวเองชื่อ Caramel Studio ค่ะ เราเป็นทีมงานเล็ก ๆ ทำกันมา 5 ปีแล้ว กลุ่มลูกค้าเราเป็นผู้หญิงทำงานที่มีความเรียบง่าย โรแมนติก และ Passionate มุกดูทุกส่วนในการสร้างแบรนด์ ทั้งภาพรวมของ Design, Branding, Production และการวางแผนงบประมาณต่าง ๆ ด้วย จริง ๆ ก่อนหน้านี้เราเป็นแค่ Designer เคยทำแบรนด์มาก่อน พอไปเรียนกลับมา เหมือนเราโตขึ้น มีทิศทางในการทำงาน เข้าใจตลาดมากขึ้น จัดการระบบความคิดได้ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็น ซึ่งจุดเปลี่ยนเหล่านี้ก็มาจากตอนเรียนที่ Domus เยอะเลยค่ะ

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

“ปูเป้” ณัฐณิชา

“ปูเป้” ณัฐณิชา

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Visual Brand Design
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : Art Director ที่ Agency โฆษณา บริษัท เชอิล ประเทศไทย (Cheil Worldwide Thailand)

Alumni – Domus Academy
“ปูเป้” ณัฐณิชา | Master in Visual Brand Design

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

คอลัมน์นี้คุณจะได้พบกับ “ปูเป้” ณัฐณิชา กาจกำจรเดช สาวนักเรียนทุนอันดับที่ 1 คณะ Master in Visual Brand Design เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของปูเป้กันได้เลย!

DA Thailand: โปรเจกต์ที่ได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด ?

ปูเป้: ชอบความหลากหลายของแต่ละ Workshop (การทำงานกลุ่มกับบริษัทดีไซน์ชื่อดัง) ที่ได้ทำเลยค่ะ

  1. Product Strategy in Collaboration with Bastard
  2. Brand Identity & Communication Strategy in Collaboration with Saxoprint
  3. Fashion & Luxury Communication in Collaboration with Vhernier
  4. Experience Design in Collaboration with Palladio Museum
    แต่โปรเจกต์ชอบที่สุดน่าจะเป็นที่ทำร่วมกับบริษัทโรงพิมพ์ Saxoprint เพื่อโปรโมต Saxoprint’s Easy Box ค่ะ โจทย์คือต้องดึงดูดลูกค้าใหม่ด้วยสื่อและสินค้าประเภทต่าง ๆ ซึ่งใน Workshop นี้โชคดีมาก ๆ ที่ได้ทีมดี ทุกคนช่วยเหลือและแบ่งงานกันลงตัวทำให้งานออกมาดี ในแต่ละ Workshop การเลือกสมาชิกในทีมให้ดีเลยมีส่วนสำคัญมาก

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุด ?

ปูเป้: ได้มีส่วนร่วมในการแข่งขัน Design Marathon ที่ทุกทีมต้องรับโจทย์และสร้างสรรค์งานให้เสร็จภายในเวลา 48 ชั่วโมงค่ะ โจทย์การแข่งขันในตอนนั้นคือเราต้องคิดวิธีโปรโมตแบรนด์กระเป๋า Arago ใน Instagram ซึ่งเรียกได้ว่าแทบไม่ได้นอนกันจริง ๆ ทุกคนในทีมตั้งใจกันมาก หลังจากทำงานเสร็จแล้วก็ต้องขึ้นไป Present ต่อหน้าคนเยอะมาก ๆ อีก รู้สึกว่าเหมือนได้เอาชนะความกลัวตรงจุดนี้ไปด้วยและผลสุดท้ายก็ได้รางวัลเป็นอันดับ 2 ค่ะ เลยรู้สึกประทับใจกับประสบการณ์นี้ที่สุด

DA Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงเรียนจบเป็นอย่างไร ?

ปูเป้: ตอนแรกกังวลว่าจะไม่มีเพื่อนเพราะไปเรียนคนเดียว ไม่รู้จักใครเลย แต่พอไปถึงแล้วคือเพื่อนทุกคนดีมาก ทุกคนเฟรนลี่และพร้อมให้ความช่วยเหลือกันทั้งในเรื่องชีวิตประจำวันและเรื่องงาน ได้เพื่อนใหม่จากหลากหลายสาขาการออกแบบไม่เพียงแต่ในคณะของตัวเอง เพราะบางทีเราจะได้มีโอกาสทำงานร่วมกับคณะอื่นในบาง Workshop ด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ ค่ะ ครูประจำสาขาก็น่ารักมาก มีออกไป Hangout กับทุกคนเหมือนเพื่อนเลย โดยทุกคนล้วนเป็น Connection ที่ดีถึงหลังจบมาเราก็ยังติดต่อกับเพื่อนๆ และปรึกษางานกันได้อยู่เสมอ

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

ปูเป้: มี Design Lab (เน้นงาน 3d), Library, Printing Shop etc. แต่ในส่วนของคณะ Visual Brand Design เราไม่ค่อยต้องใช้ Facility ต่าง ๆ เท่าไหร่ จะใช้โถงที่เป็น Co-Working Space ไว้ทำงานกลุ่มมากกว่า เป็นที่ที่ปิดดึกมาก มาทีไรก็จะเจอเพื่อน ๆ ที่รู้จัก ได้ปรึกษางานไปได้ด้วยในตัว เป็นจุดนัดพบที่มาบ่อยมากและมีประโยชน์มากค่ะ เพราะยังไงทุก Workshop ก็เป็นงานกลุ่มอยู่แล้วด้วยในขณะที่เรียนตอนนั้น

DA Thailand: ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรของช่วง Professional Experience ที่ต้องฝึกงาน 2 เดือน ?

ปูเป้: ฝึกงานที่ Antitetico เป็น Branding Agency ที่เด่นเรื่อง Art Direction และ Brand Experience ค่ะ หลัก ๆ แล้วเราได้เรียนรู้การทำงานและ Culture ของคนที่นี่

DA Thailand: ปัจจุบันทำงานอะไรเเละเราเอาความรู้ที่เรียนจากโดมุสมาประยุกต์ใช้ ได้อย่างไรบ้าง ?

ปูเป้: ส่วนตัวชอบบรรยากาศการทำงานที่ไทยมากกว่าเลยกลับมาทำงานที่ Agency โฆษณา บริษัท เชอิล ประเทศไทย(Cheil Worldwide Thailand) ตำแหน่ง Art Director หลังจากเรียนจบค่ะ ความรู้จากโดมุสนำเอามาประยุกต์ใช้ได้หลายอย่างเลยโดยเฉพาะการทำ Present ที่ต้องสวยและเข้าใจง่าย การสื่อสาร และการคิดไอเดียร่วมกับผู้อื่น เพราะในชีวิตการทำงาน เราก็ต้องทำงานกันเป็นทีมเหมือนกับที่ทำมาตลอดในช่วงที่เรียนที่โดมุสค่ะ

สุดท้าย ปูเป้ขอฝากผลงานปัจจุบัน คือ Website : natnichak.com และ FB Page ส่วนตัว: Try X Once เพจเเนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทั่วยุโรป เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook Page: https://www.facebook.com/tryXonce/
หรือ Website: https://www.tryxonce.com ค่ะ

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

“แพร” วาริศา

“แพร” วาริศา

  • สาขาที่เรียน : หลักสูตรปริญญาโท สาขา Luxury Brand Management
  • สถาบัน : สถาบันโดมุส อะคาเดมี (Domus Academy)
  • ปัจจุบัน : Head Of Social Media ที่ Digital Fashion Communication Agency ชื่อ Domingo Communication ในเมืองมิลาน

Alumni – Domus Academy
“แพร” วาริศา | Master in Luxury Brand Management

พบกับคอลัมน์พิเศษ “Q&A with DA Alumni หรือ DA Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันโดมุส (Domus Academy) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! DA Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งนักเรียนรุ่นต่อไปที่กำลังจะไปเรียนต่อสถาบันโดมุสจะได้รู้ถึงทุกเรื่องราวในหลายเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ

  • โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด
  • ประสบการณ์ในโรงเรียนสุดประทับใจ
  • สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่เริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ
  • Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนท่ีสุด
  • ได้ฝึกงานกับบริษัทอะไรหลังเรียนจบ (ถ้ามี) เเละปัจจุบันทำงานที่ไหน ตำเเหน่งอะไร

บทความ Q&A นี้ คุณจะได้พบกับสาว “เเพร” วาริศา มัคคสมัน นักเรียนที่จบหลักสูตรปริญญาโท จากคณะ Master in Luxury Brand Management ซึ่งปัจจุบันเเพรทำงานในตำแหน่ง Head Of Social Media ที่ Digital Fashion Communication Agency ชื่อ Domingo Communication ในเมืองมิลาน เราไปติดตามเเละอ่านเรื่องราวของเธอกันได้เลย!

DA Thailand: โปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียน เเล้วรู้สึกชอบที่สุด ?

เเพร: Project Branding สำหรับนิตยสาร L’Officiel Italia คือโปรเจกต์ท่ีได้ทําตอนเรียนเเล้วรู้สึกชอบที่สุดค่ะ เพราะตัวเองมีประสบการณ์งานนิตยสารที่เมืองไทยมาก่อนแล้วหลายปี ซึ่งรวมไปถึงการได้ทำงานที่ L’Officiel Thailand ด้วย เป็นโปรเจกต์ให้วิเคราะห์อนาคตของวงการนิตยสาร ที่กำลังเปลี่ยนไปตามภาวะยุคดิจิตัล ที่ผู้อ่านหันมาเสพข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียมากกว่าการอ่านนิตยสารจริง เราและเพื่อน ๆ ในกลุ่มจากหลากหลายประเทศมีไอเดียที่น่าสนใจต่าง ๆ กัน และยังได้ออกไปสัมภาษณ์ผู้อ่านจริงตามร้านหนังสือต่าง ๆ ในมิลานด้วย เลยกลายเป็นโปรเจกต์ที่เราอินจริง ๆและมีผลลัพธ์ในการทำงานที่ดีเเละน่าสนใจมาก

DA Thailand: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุด ?

เเพร: ประสบการณ์ในโรงเรียนที่ประทับใจที่สุดคิดว่าเป็นเรื่องของ “ความสัมพันธ์” กับเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกัน ทุกคนมี Passion ของตัวเองอย่างชัดเจนจะพูดก็ได้ว่าแต่ละคนมีไฟแบบเต็ม ๆ ถึงช่วงการเรียนจะสั้นแค่ปีเดียว ช่วงการทำงานกลุ่ม การทำความเข้าใจ ความคิดเห็น ไอเดีย และบุคลิกของเเต่ละคนที่ต่างกัน ได้มาทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ผิวเผินเหมือนช่วงเวลาสั้น ๆ ของคอร์ส คนที่ไม่รู้จักกัน หรือคนที่มาจากประเทศที่เราไม่เคยไป กลับกลายมาเป็นเพื่อนสนิทได้ นอกจากนี้ในมิลานและทั่วอิตาลียังมีที่เที่ยวนับไม่ถ้วนที่เราสามารถสร้างประสบการณ์กับเพื่อนใหม่แบบน่าประทับใจมาก ๆ ค่ะ

DA Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่ตอนเรียนจนถึงเรียนจบ ?

เเพร: ส่วนมากทุกคนก็แยกย้ายจะมีไม่กี่คนที่ยัง Keep in Touch หรือติดต่อกันอยู่ เช่น เพื่อนที่ได้งานทำในมิลานเหมือนกัน (ตอนนี้เเต่งงานมีครอบครัว ทำงานเเละใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลี) หรือประเทศในแถบยุโรปใกล้ ๆ ส่วนอาจารย์ที่สอนเรา คนที่เป็น Project Leader ก็ยังคุยกันเรื่องชีวิตหลังเรียนจบ เรื่องงาน แนะนำเราในเรื่องต่างๆอยู่เรื่อยๆถึงเราจะเรียนจบไปหลายปีแล้วก็ตาม

DA Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?

เเพร: ส่วนมากก็อยู่เฉพาะในตึก D ของ Domus Acedamy อย่างเดียวทั้งตอนเรียนและตอนทำโปรเจกต์ เลยไม่ได้ใช้ Facility อื่นๆเท่าไหร่ นอกจากนี้ที่ชอบก็คือห้องสมุดๆเล็กๆที่มีอยู่ น่ารักดีค่ะ

DA Thailand: ปัจจุบันทำงานที่ไหน ในตำเเหน่งอะไรเเละยังได้เอาเอาความรู้ที่เรียนจากโดมุสมาประยุกต์ใช้ ได้อย่างไรบ้าง ?

เเพร: ตอนนี้ทำงานในตำแหน่ง Head Of Social Media ที่ Digital Fashion Communication Agency ในมิลานชื่อ Domingo Communication ดูแลเรื่องการสื่อสารออนไลน์ของแบรนด์แฟชั่นอิตาเลียนหลายๆแบรนด์ ทำตรงกับที่เรียนเป๊ะๆทุกอย่าง เรียนอะไรมาใช้ได้หมดทุกอย่างเลยค่ะ

CONTACT US

We Glad to Guide You

April 1, 2021

Page 1 of 2