พบกับคอลัมน์พิเศษ “Interview with I’m Thai Alumni หรือ IM Thailand” ของศูนย์ข้อมูลการศึกษาสถาบันอิสติตูโต้มารังโกนี่ (Istituto Marangoni) ประจำประเทศไทยได้แล้วที่นี่! IM Thailand ได้ทำการสัมภาษณ์ศิษย์เก่าที่จบการศึกษาจากสถาบันชั้นนำสายแฟชั่น ศิลปะ และการออกแบบ ในหลากหลายสาขา ซึ่งทุกคนจะได้ฟังประสบการณ์ในทุกเเง่มุมแบบ Exclusive อาทิ
“ด้าย” ชลธิชา แจ่มประชา ศิษย์เก่าสาวคณะ MA in Fashion Promotion Communication and Media ปี 2017 ลอนดอนเเคมปัส ซึ่งด้ายได้เล่าให้ฟังว่าชีวิตนักเรียนของเธอที่สถาบันอิสติตูโตมารังโกนี (Istituto Marangoni) สนุกและเต็มไปด้วยความครีเอทีฟ เหมาะกับไลฟ์สไตล์เด็กแฟชั่น ลองมาฟังเธอเล่าประสบการณ์พร้อมโปรเจกต์สนุก ๆ กัน!
IM Thailand: ประสบการณ์ในมารังโกนี่ ลอนดอนแคมปัส ?
ด้าย: นักเรียนในห้องมีความหลากหลายมาก ทั้งเชื้อชาติและไอเดีย จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในทุกคลาส เพื่อนในห้องทุกคนมาจากคนละประเทศหมดเลยค่ะ ถ้าจําไม่ผิดมี 23 คน มีที่ซำ้ในห้องคือมีคนไทย 2 คนค่ะ มีด้ายแล้วก็เพื่อนอีกคน “ตอนเรียนสนุกมากกก ด้วยความที่เป็น Diverse Class มากๆ ทุกคนก็ จะมี Idea ที่แตกต่างกันไป ทุกคนกล้าพูด กล้าทํา กล้าแสดงออก”
IM Thailand: สังคม เพื่อน และคุณครู ตั้งแต่ตอนเริ่มเรียนจนถึงเรียนจบ ?
ด้าย: มีอาจารย์คอยซัพพอร์ตความคิด ทุกไอเดียไม่ผิด แต่ต้องหัดคิดต่อ อาจารย์ที่นี่ไม่ค่อยบอกหรือคอมเมนต์ว่าแบบนี้ผิดนะ แต่ถ้าเรามีไอเดียที่ยังแคบอยู่ เค้าก็จะเป็นแนว บอกใบ้ว่ารู้จักเรื่องนี้ไหม หัวข้อนี้ไหม ลองไปอ่านดูสิ แล้วเอามาประยุกต์ดู “แล้วด้วยความท่ีอาจารย์ ไม่ตีกรอบ ทําให้ทุก ๆ ครั้งท่ีพรีเซนต์งาน มันสนุกขึ้นเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลยค่ะ”
IM Thailand: Facility ของโรงเรียนมีอะไรบ้าง ชอบอันไหนที่สุด ?
ด้าย: บรรยากาศของโรงเรียนที่นี่ชิคและโมเดิร์นสุด ๆ ค่ะ เหมาะแล้วที่เป็น Leading Fashion School ที่ชอบท่ีสุดก็น่าจะเป็นห้องสมุดเล็ก ๆ ที่เป็นกระจกล้วน ๆ ด้านข้าง ทําให้เราอ่านหนังสือไปด้วย ดูผู้คน สัญจรไปมาได้ด้วย Inspiring Atmosphere สุด ห้องสมุดที่นี่ไม่ ได้ใหญ่มากค่ะ แต่เป็นห้องสมุดที่ Specialise ด้าน Fashion คือมีหนังสือเยอะมากๆ ซึ่งเป็นแหล่งที่ดีมากสําหรับเด็ก Fashion อย่างเราๆ”
IM Thailand: ชอบทำโปรเจกต์ไหนมากที่สุด ตอนเรียนอยู่สาขา Fashion Promotion ?
ด้าย: ตอนน้ันด้ายได้ Topic ให้ทํา Marketing ให้ “Mackintosh Brand” ซึ่งเป็น Hi-END Brand และ เป็นแบรนด์ที่เก่าแก่มาก ๆ แบรนด์นึงของอังกฤษ ตัวแบรนด์เองมี Know How ที่เร่ิดพอตัวค่ะ เค้าดังมาก ๆ ในเรื่องการผลิต Trench Coat และโจทย์ที่เราต้องทําคือ “ทํายังไงก็ได้ให้แบรนด์นี่เป็นท่ีรู้จักมากขึ้น” ตอนน้ันด้ายนําเอาหนังสือของ John Hall มาเป็นข้อมูลหลักท่ีนํามาพัฒนา Mackintosh ค่ะ ซึ่งหนังสือชื่อว่า Top of Mind Brand เราอ่านแล้วมาโฟกัสว่าทําอย่างไรให้ Mackintosh เป็นที่ยอมรับของผู้คนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 18 – 24 ปี ซึ่งมีอัตราการใช้ Social Media เยอะมาก ๆ
นอกจากการจัด Event แล้ว ด้ายยังนําเสนอให้ Mackintosh Collaborate กับ “Supreme” ค่ะ ซึ่ง Supreme เองมีฐานลูกค้าท่ีแน่นหนา มี Royalty ที่หนักแน่นต่อแบรนด์มาก ๆ กลุ่มเป้าหมายของ Supreme เองก็ชัดเจน มาก ๆ เช่นกัน ด้วยความที่ Mackintosh มี Know How ของ Trench Coat ท่ีสามารถทําให้นํ้ากล้ิงบนผ้าได้ แล้วกลุ่มลูกค้าของ Supreme ก็เป็นกลุ่มที่ชอบทํากิจกรรม Outdoor บวกกับอังกฤษเป็นประเทศท่ีฝนตกตลอดเวลา เพราะฉะนั้นด้ายเลยทํา Project ให้เค้า Collaborate กันค่ะ
IM Thailand: ปัจจุบันทำงานอะไร ?
ด้าย: ด้ายทำจิวเวลรี่แบรนด์เป็นของตัวเองค่ะ ใช้ชื่อเเบรนด์ว่า “My Mom Made Me Do This” ซึ่งเป็นจิวเวลรี่ทำมือ (Craftsmanship) โดยช่างคนไทย (Thai Artisan) ทางแบรนด์มีจุดยืนที่ชัดเจนว่าเป็นจิวเวลรี่แบรนด์ ที่ Support Slow Fashion “Buy Less Choose Well” และเป็น Transparent Brand (แบรนด์ที่โปร่งใส) โดยพยายามเปิดให้ลูกค้าเห็นถึงขั้นตอนการผลิตอย่าง Crystal Clear ว่าใครเป็นคนออกแบบและผลิตจิวเวลรี่แต่ละ Collection #oneartisanonestory
ถ้าใครสนใจสินค้า ติดต่อมาได้นะคะ ตามข้อมูลด้านล่างเลยค่ะ
Jewellery Brand : My Mom Made Me Do This
Instagram : @mymommademedothis_bkk
Line : @mymombkk
Brand Video Teaser: https://www.facebook.com/marangonithailand/videos/412234812664317/?v=412234812664317&external_log_id=321de3b5f59e3f93334fdd2592610549&q=My%20Mom%20Made%20Me%20Do%20This