ประเทศอิตาลี หนึ่งในประเทศที่อยู่ในทวีปยุโรปที่ใครได้ไปก็ต่างตกหลุมรัก เพราะมีกลิ่นอายของศิลปะและวัฒนธรรมที่สวยงาม ที่สร้างความโรแมนติก สร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมรายล้อมไปด้วยเทือกเขา และทะเลที่มีความสวยงาม สมบูรณ์ตามแบบของธรรมชาติ ด้วยบรรยากาศที่ดีของ ประเทศ อิตาลี นี้ ทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ หากได้ไปรับรองจะประทับใจอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงนำเมืองน่าไปมาฝากกันในเรื่อง 3 เมืองน่าไป ในประเทศ อิตาลี หากใครต้องการที่จะไปพิสูจน์ความสวยงามนี้ก็ไปติดตามต่อจากนี้พร้อมกันได้เลย รับรองว่าคุณจะตกหลุมรักแน่นอน
มาเริ่มกันที่เมืองแรกที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ไปท่องเที่ยวชมความสวยความงามของเมืองนี้กัน นั่นก็คือ เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) เมืองหลวงเก่าของประเทศอิตาลี เป็นหัวใจสำคัญของแคว้นทัสคานี ที่เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ เพราะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และบรรยากาศที่ดี มีแม่น้ำอาร์โน (Arno) ที่ไหลผ่านกลางเมือง และมีสะพานเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 อย่างเช่น สะพานเวคคิโอ (Ponte Vecchio) ที่เชื่อมระหว่างสองฝั่งของเมืองเข้าด้วยกัน ที่สามารถมาเดินช้อปปิ้ง เดินเล่นชมบรรยากาศ ชมวิวที่สวยงาม และชมพระอาทิย์ตกดินได้ และนอกจากนี้ที่เมืองฟลอเรนซ์ (Florence) ประเทศอิตาลี ยังมีศิลปะคลาสสิคยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่งดงาม ทั้งภาพวาดและสถาปัตยกรรม อย่างเช่น มหาวิหารฟลอเรนซ์ (Cathedral of Santa Maria del Flore), วังปาลาซโซเวคคิโอ (Palazzo Vecchio), รูปปั้นของ David, ผลงานชิ้นเอกของไมเคิลแองเจโลและเลโอนาร์โด ดา วินชี และมีพิพิธภัณฑ์แสดงผลงานศิลปะที่โด่งดังอย่างเช่น หอศิลป์อุฟฟีซี (The Uffizi Gallery) เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบในงานศิลปะและความสวยงามต้องห้ามพลาดเมืองนี้เลย
อีกหนึ่งเมืองมรดกโลกที่โด่งดังและเป็นเมืองยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ เวนิส (Venice) เป็นเมืองที่สร้างขึ้นบนทะเลสาบ มีเกาะถึง 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมหากัน การเดินทางเน้นไปที่การใช้เรือ ใช้จักรยานและการเดินเท้า จึงเป็นเมืองที่มีอากาศที่บริสุทธิ์ โดยที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมให้ทำมากมายอย่างเช่น การล่องเรือชมความงามจากบริเวณแกรนด์คาแนล, การล่องเรือกอนโดลา (Gondola), การเดินท่องเที่ยวลัดเลาะตามครอกซอกซอยเมืองเก่าที่สวยงามต่างๆ ที่มี พระราชวังดอจ หรือ ปาลัซโซ่ดูคาเล (Palazzo Ducale) พระราชวังเก่าแก่ที่เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามทั้งภายในและภายนอกของพระราชวัง, จัตุรัสซานมาร์โก (Piazza San Macro) จตุรัสใหญ่ใจกลางเมืองเวนิส เป็นต้น เรียกได้ว่าหากใครได้ไปท่องเที่ยวที่เมืองนี้นั้นคุณจะตกหลุงรักและประทับใจในความสวยงามและความโรแมนติกอย่างแน่นอน
เมืองน่าไปที่เราอยากแนะนำแห่งสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เมื่อไปประเทศอิตาลีก็คือ โรม (Rome) นั่นเอง เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในเรื่องของศิลปะ วัฒนธรรม และความเก่าแก่ เพราะที่นี่นั้นมีประวัติศาสตร์ความเป็นมามาอย่างยาวนาน มีโบราณสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์หลายแห่ง อีกทั้งบ้านเมืองยังมีความคลาสสิค สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำให้ได้ไปสัมผัส อาทิเช่น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่าง โคลอสเซียม (Colosseum), เทวสถานศักดิ์สิทธิ์อย่าง วิหารแพนธีอัน (Pantheon), น้ำพุเทรวี (Trevi Fountain) และหากใครชื่นชอบงานศิลปะหลากหลายยุคสมัยต้องที่ พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museums) นอกจากนี้ที่โรมยังมีร้านค้า ตลาดท้องถิ่น และแหล่งช้อปปิ้งให้ได้เดินเลือกซื้อของฝากเพิ่มเติมอีกด้วย
จบไปแล้วนะคะกับเมืองที่เราอยากแนะนำให้ไปท่องเที่ยวกันผ่านเรื่อง 3 เมืองน่าไป ในประเทศ อิตาลี หากได้ไปรับรองว่าจะประทับใจในบรรยากาศและความงามของประเทศนี้แน่นอน และนอกจากเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของศิลปะแล้ว ที่นี่ยังมีสถาบันที่โดดเด่นในด้านแฟชั่นและการออกแบบ เปิดสอนให้กับนักเรียนทั่วโลก อาทิเช่น สถาบัน Istituto Marangoni, NABA และ Domus Academy หากใครสนใจอยากเรียนต่อทางด้านแฟชั่นและการออกแบบในอิตาลี กำลังเตรียมตัวแต่ต้องการคำแนะนำ ก็สามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมกับพี่ๆ DP-Education